รพ.กรุงเทพ ชี้แจงผู้ป่วย รพ. เข้าผ่าตัดติดเชื้อ 'โควิด-19'
รพ.กรุงเทพ แจกแจง กรณีผู้ป่วยติดเชื้อ "โควิด-19" เข้าผ่าตัดภายในโรงพยาบาล ระบุหลังเดินทางกลับจากญี่ปุ่น แพทย์ได้ตรวจหาเชื้อ 2 ครั้งแรกไม่พบ จนกระทั่งเข้าสู่วันที่ 13 จึงนำมาตรวจซ้ำอีกครั้ง จึงพบว่าติดเชื้อ
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 63 รศ.พญ.พรรณพิศ สุวรรณกูล ผู้อำนวยการอาวุโสแผนกโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลกรุงเทพ แถลงข่าวชี้แจงกรณีมีผู้ป่วยกลับจากญี่ปุ่น เข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล หลังเกิดอุบัติเหตุเล่นกีฬาล้มแขนหัก ก่อนจะพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ว่า กรณีนี้ผู้ป่วยกลับจากต่างประเทศได้ 2 วัน และมีอาการประสบอุบัติเหตุเล่นกีฬาแขนหัก ซึ่งต้องผ่าตัดเพื่อไม่ให้พิการ จึงต้องมาพบแพทย์เพื่อนัดผ่าตัด เนื่องจากมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ทางโรงพยาบาลจึงได้ทำการตรวจหาโรคโควิด-19 ตรวจครั้งแรกไม่พบว่าป่วย ทางผู้ป่วยได้กักตัวเองในคอนโดมิเนียม คนเดียว จำนวน 9 วัน หลังจากนั้นจึงนัดมาทำการผ่าตัด โดยได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 ก็ยังไม่พบการติดเชื้อ จึงได้ทำการผ่าตัด โดยระหว่างนั้นทางบุคลากรแพทย์ทุกคนได้ใส่ชุดป้องกันตัวเองเต็มที่
รศ.พญ.พรรณพิศ กล่าวว่า ต่อมาเมื่อถึงครบ 13 วัน หลังจากผู้ป่วยรายนี้กลับจากต่างประเทศ เราได้นัดผู้ป่วยมาตรวจหาเชื้อครั้งที่ 3 จึงพบว่าติดเชื้อโควิด-19 เป็นผู้ป่วยรายที่ 58 ของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ผู้ป่วยไม่มีการแสดงอาการป่วยใด ๆ เลย ตามหลักแล้วถือว่ามีเชื้อน้อยมาก ไม่สามารถแพร่เชื้อได้ แต่ตามขั้นตอนต้องส่งตัวรักษา ทางโรงพยาบาลได้ทำตามขั้นตอนส่งผู้ป่วยไปรักษาตัวที่รพ.รัฐแล้ว
ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ผู้ใกล้ชิดของผู้ป่วยรายนี้มีทั้งหมด 77 คน ทางรพ.ได้ทำการตรวจซ้ำแบ่งกลุ่มเสี่ยง ใครอยู่ในกลุ่มเสี่ยงมาก ก็จะให้หยุดพักงาน14วัน สำหรับแพทย์ที่รักษา จากการตรวจไม่พบว่ามีอาการติดเชื้อ ได้หยุดทำงาน1-2วัน ตอนนี้มาทำงานตามปกติแล้ว
ทั้งนี้ คนไข้ที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง จะมีการแยกตึก โดยมีบุคลากรที่ได้รับความรู้วิธีการดูแลขอยืนยันว่ารพ.กรุงเทพมีมีมาตรการดูแลผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทุกจุดเพื่อให้ความปลอดภัยสูงสุด โดยเป็นไปตามมาตรฐานสากล ทุกคนปลอดภัย รวมถึงประชาชนที่มาใช้บริการด้วย