เรือนจำเร่งผลิต 'หน้ากากผ้ามัสลิน' แจกนักโทษและหน่วยงานทั่วไทย
รมว.ยุติธรรม เร่งช่วยสังคม จัดมาตรการเชิงรุกให้เรือนจำผลิตหน้ากากผ้ามัสลิน แจกจ่ายนักโทษ หน่วยราชการ โรงพยาบาล และขายให้ประชาชนทั่วไป ด้านกรมราชทัณฑ์เตรียมมาตรการคัดกรอง COVID-19 เข้มงวด เช่น งดเยี่ยมญาติ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ ครม. มีมติมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมมีส่วนร่วมในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ด้านเวชภัณฑ์ป้องกันว่า เวลานี้กรมราชทัณฑ์ได้มีมาตรการเชิงรุกในการช่วยสังคมจากการป้องกันโรค "โควิด 19" ด้วยการให้นักโทษที่ฝึกวิชาชีพตัดเย็บเสื้อเป็นผู้ผลิต "หน้ากากอนามัย" ด้วยผ้ามัสลิน
โดยกระบวนการผลิต ตนนั้นกำชับให้รักษาความสะอาด มีการใส่ถุงมือยางซึ่งถูกต้องตามสุขลักษณะ โดยเวลานี้ทัณฑสถานที่สามารถดำเนินการได้มีทั้งสิ้น 78 แห่ง โดยได้รับคำแนะนำและอบรมจากกระทรวงสาธารณสุข กรมอาชีวศึกษา และสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน สามารถผลิตได้ประมาณ 45,323 ชิ้นต่อวัน ปัจจุบันผลิตและจำหน่ายไปแล้วประมาณ 400,000 ชิ้น โดยได้กำหนดแผนการดำเนินการไว้ว่าภายในสิ้นเดือนมีนาคม จะผลิตหน้ากากอนามัยให้ได้ 1 ล้านชิ้น
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เน้นการผลิตให้ผู้ต้องขังได้ใช้ รวมถึงส่งให้หน่วยงานส่วนราชการข้างเคียงที่ร้องขอประมาณ 1 แสนชิ้น และโรงพยาบาลแม่ข่ายประมาณ 1 แสนชิ้น และที่เหลืออีก 5 แสนชิ้น จะจำหน่ายให้ประชาชนในภูมิภาคของแต่ละเรือนจำและส่วนกลาง
สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถหาซื้อได้หลายช่องทาง เช่น เฟซบุ๊กของทัณฑสถานต่างๆ ร้านค้าทั่วประเทศกว่า 140 แห่ง รวมถึงจุดประชาสัมพันธ์เยี่ยมญาติในทุกเรือนจำด้วย ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2563 มียอดการผลิตและแจกจ่ายให้ผู้ต้องขังทั่วประเทศ 375,450 คน มียอดจัดส่งให้โรงพยาบาล สภากาชาด และแจกจ่ายประชาชนฟรี 50,000 ชิ้น
ส่วนหน่วยงานภาครัฐ มีการสั่งซื้อ 82,200 ชิ้น และทางด้านหน่วยงานเอกชนสั่งซื้อ 431,500 ชิ้น รวมจำนวนการผลิตและสั่งซื้อทั้งสิ้น 959,906 ชิ้น
นายสมศักดิ์ กล่าวว่าสำหรับการป้องกัน โควิด-19 ในเรือนจำนั้น ทางกรมราชทัณฑ์ได้ออกมาตรการป้องกันสถานการณ์ทั้ง 3 ระยะ โดยระยะแรก คัดกรองผู้ต้องขังเข้าใหม่ รับย้าย และกลับจากศาลทุกรายการโดยเคร่งครัด รณรงค์ทำความสะอาดเรือนจำ งดการจัดกิจกรรมที่ต้องให้ผู้ต้องขังอยู่ร่วมกันจำนวนมาก รวมทั้งพิจารณางดกิจกรรมการเยี่ยมญาติใกล้ชิดหรือกิจกรรมที่ต้องให้บุคคลภายนอกเข้ามาภายในเรือนจำ จัดระบบอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำเพื่อช่วยงานสถานพยาบาล รวมทั้งเตรียมการจัดหาหน้ากากอนามัยหรือผลิตหน้ากากอนามัยใช้เองด้วย
ส่วนระยะที่ 2 เพิ่มเติมการคัดกรองผู้ต้องขังแรกรับที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง คัดกรองเจ้าหน้าที่และบุคคลภายนอกก่อนเข้าเรือนจำ จัดเตรียมห้องแยกโรคหรือพื้นที่รองรับการระบาด
ส่วนระยะที่ 3 งดการเยี่ยมญาติใกล้ชิด คัดกรองเจ้าหน้าที่หรือบุคคลภายนอกที่มีอาการน่าสงสัยไม่ให้เข้าเรือนจำ คัดกรองผู้ต้องขังก่อนเข้าและออกจากเรือนนอนทุกวัน และร่วมกับโรงพยาบาลแม่ข่ายตั้งคณะทำงานป้องกัน เฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดและเตรียมการด้านการรักษาไว้ให้พร้อม