'สามารถ' แนะวิธีคัดกรอง ตรวจแล้วยังไม่พบเชื้อ กรณีนายกฯไก่ติดโควิด-19

'สามารถ' แนะวิธีคัดกรอง ตรวจแล้วยังไม่พบเชื้อ กรณีนายกฯไก่ติดโควิด-19

ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ "สามารถ เจนชัยจิตรวนิช" แนะวิธีคัดกรอง ตรวจแล้วยังไม่พบเชื้อ กรณีนายกฯไก่ติดโควิด-19

วันนี้ (16 มี.ค.) เวลาประมาณ 13.00 น. นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของพรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า "การใช้วิธีคัดกรอง จะตรวจไม่พบ ในกรณีของนายกไก่ ที่ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว เนื่องจากได้ไปดูมวย วันที่ 6 มีนาคม 63 และ ได้มีการตัดคัดกรองวันที่ 11 ไม่พบเชื้อโควิด-19 แต่ พอตรวจสอบที่ รพ. วันที่ 15 พบว่าเป็น โควิด-19 เรื่องนี้น่ากลัวมากผมขอยกกรณีศึกษา จาก Case Study ในวารสารสมาคมการแพทย์อเมริกา (American Medical Association) ที่นำเสนอประเด็นเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา และวิเคราะห์ว่าทำไมถึงเป็นเรื่องยากที่จะหยุดการระบาด ไปตรงกับข้อมูลของ Dr. William Schaffner ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัย Vanderbilt ที่กล่าวไว้ว่า “เป็นไปได้ที่เราจะติดเชื้อไวรัสโคโรนา และไม่มีอาการป่วย”

จากรายงานของ Dr. Meiyun Wang แพทย์จากโรงพยาบาลเพื่อประชาชน มหาวิทยาลัย Zhengzhou (The People’s Hospital of Zhengzhou University) ระบุว่า มีเคสหญิงสาววัย 20 ปี ที่เดินทางจากอู่ฮั่น ไปเยี่ยมญาติที่อันหยาง (Anyang) เมืองที่ห่างออกไปเกือบ 700 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 10 มกราคม โดยที่เธอไม่ได้มีอาการป่วยใดๆ ซึ่งแน่นอนว่าในตอนนั้นที่อันหยางยังไม่มีการระบาด

ญาติของเธอที่อันหยาง 5 คน ถูกตรวจพบเชื้อ COVID-19 และมีอาการป่วยหลังจากนั้น แต่หญิงสาวที่เดินทางมาจากอู่ฮั่นก็ยังไม่มีอาการใดๆ ซึ่งการตรวจในครั้งแรกนั้นไม่พบเชื้อในตัวเธอ แต่สุดท้ายก็มาเจอเชื้อในการตรวจครั้งต่อมา ซึ่งสิ่งที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ถึงกับไปไม่เป็นในเคสนี้ก็คือ เวลาล่วงเลยมาจนเกินระยะฟักตัวของเชื้อแล้ว หญิงสาวรายนี้ก็ยังไม่มีอาการอะไรเลย ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่เจ็บคอ ยิ่งไปกว่านั้น ผล CT Scan ยังพบว่าปอดของเธอปกติดี ไม่ได้ถูกเชื้อไวรัสทำลายแม้แต่น้อย

จากเคสดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญต่างตั้งข้อสังเกตว่า การป้องกัน COVID-19 จะยากขึ้นไปอีก เพราะหลายคนอาจจะมีเชื้อในตัวแล้ว แต่ที่ไม่ป่วยเพราะร่างกายแข็งแรงเกินกว่าที่ไวรัสจะจู่โจมได้ แต่เชื้อก็ยังสามารถติดต่อได้อยู่ดี และเราอาจจะเป็นพาหะนำเชื้อไปสู่คนรอบข้างโดยไม่รู้ตัว ซึ่งโรคนี้จะมีอัตราการเสียชีวิตสูงมากในผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้ที่ร่างกายไม่แข็งแรง

ซึ่งเรื่องนี้เองผมคิดว่าท่านนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระมัดระวัง เพราะบางคนไม่รู้ตัวว่าเป็นพาหะของโรค เรื่องนี้คือความน่ากลัวมาก ต้องงดกิจกรรมทุกชนิด งดการพบปะ งดการเดินทาง เพราะประชาชนส่วนใหญ่ใช้รถเดินทางสาธารณะ ผมขออนุญาตหยิบยกข้อมูลมาว่า  นักระบาดวิทยาจีน ชี้ “โควิด-19” แพร่กระจายไกล 4.5 เมตร ล่องลอยอยู่ในอากาศนาน 30 นาที ย้ำ ต้องสวมหน้ากากอนามัยบนรถโดยสารทางไกลและปิดหน้าต่าง ผลศึกษาโดยทีมนักระบาดวิทยาของรัฐบาลจีน พบว่า เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ล่องลอยอยู่ในอากาศได้อย่างน้อย 30 นาทีและเดินทางกระจายไปไกลถึง 4.5 เมตร มากกว่าระยะปลอดภัยที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วโลก แนะนำให้อยู่ห่างจากผู้ติดเชื้อ 1-2 เมตร นักวิจัยพบว่า เชื้อไวรัสโรคโควิด-19 สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานหลายวันบนวัตถุที่มีฝอยละอองจากระบบทางเดินหายใจตกลงบนพื้นผิว ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่เชื้อหากมีใครสัมผัสฝอยละอองบนวัตถุแล้วไปสัมผัสใบหน้า แต่ระยะเวลาที่เชื้ออยู่บนวัตถุขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

-ถ้าเชื้อไวรัสอยู่ในละอองฝอยน้ำมูก น้ำเสมหะ น้ำลายและน้ำตา อยู่รอดในอากาศได้เพียง 5 นาที
-ถ้าเชื้อไวรัสอยู่บนวัสดุเช่น พื้น โต๊ะ ลูกบิดประตู อยู่ได้ 7-8 ชม.
-ถ้าเชื้อไวรัสอยู่ในผ้าหรือกระดาษทิชชู อยู่ได้ 8-12 ชม.
-ถ้าเชื้อไวรัสอยู่บนโต๊ะพื้นเรียบ อยู่ได้ 24-48 ชม.
-ถ้าเชื้อไวรัสอยู่ในน้ำ อยู่ได้ 4 วัน
-แต่ถ้าเชื้อไวรัสอยู่ในตู้เย็นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส อาจอยู่ได้นานถึง 1 เดือน...

ดังนั้นผมจึงขอให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนระมัดระวังและป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ขอให้ศูนย์คณะกรรมการบริหารสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ได้มีมาตรการป้องกันไม่ให้คนไทยต้องได้รับผลกระทบจากการติดโควิด-19 ที่น่ากลัวที่สุดคือคนที่เป็นแล้วไม่รู้ว่าเป็น และที่เลวร้ายที่สุดคือคนที่รู้ว่าเป็นแล้วกับไปแพร่เชื้อให้คนอื่น ดังนั้นเรื่องนี้ทั้งผู้นำ และ ประชาชนคนไทยทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกันผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันนะครับ

ผมเป็นกำลังใจให้ทุกคน ผ่านเหตุการณ์นี้ไปด้วยกันครับ

“ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ” เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ"