พิษโควิด-19 ฉุดยอดการใช้น้ำมัน 2 เดือนแรกปี63 หด 5.3%
“กรมธุรกิจพลังงาน” เผย ยอดใช้น้ำมันของประเทศ 2 เดือนแรกปี63(ม.ค.-ก.พ.) หด 5.3% เหตุโควิด-19 ฉุดท่องเที่ยว การเดินทางลดฮวบ ขณะที่ กลุ่มเบนซิน ยังโตสวนกระแส ยอดใช้ อี20 พุ่งจากราคาต่ำ
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า สถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวัน รอบ 2 เดือนของปี 2563 (มกราคม – กุมภาพันธ์) ลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 5.3 % โดยเป็นการปรับลดลงทุกชนิด ยกเว้นกลุ่มน้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยต่อวัน อยู่ที่ 31.8 ล้านลิตร กลุ่มแก๊สโซฮอล์ มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ 30.95 ล้านลิตร/วัน คิดเป็น 1.1% ขณะที่น้ำมันเบนซิน มีการใช้ลดลงเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 0.8 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลง 22.2%
ขณะที่ภาพรวม การใช้น้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ พบว่า แก๊สโซฮอล์อี 20 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมากที่สุด อยู่ที่ 6.7 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 7.9% เนื่องจากมีราคาต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.01 บาท/ลิตร รองลงมาเป็นแก๊สโซฮอล์ 95 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 14.1 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 3.5% เนื่องจากแก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 มีราคาใกล้เคียงกันโดยมีส่วนต่างเพียง 0.27 บาท/ลิตร
ทำให้ผู้บริโภคเลือกใช้น้ำมันชนิดที่มีค่าออกเทนสูงกว่า ขณะที่แก๊สโซฮอล์ 91 มีปริมาณการใช้ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 9.0 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลง 6.2% และ แก๊สโซฮอล์ อี85 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 1.2 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลง 3.6%
ส่วนการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 64.6 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 2.5% โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 มีปริมาณการใช้ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 53.4 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลง 18.9% น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 3.9 ล้านลิตร/วัน (เริ่มมีการจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562) และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 7.3 ล้านลิตร/วัน (เริ่มมีการจำหน่ายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561) โดยปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วดังกล่าวอยู่ในการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของภาครัฐที่กำหนดให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 เป็นน้ำมันดีเซลฐานของประเทศและใช้มาตรการราคาเป็นกลไกผลักดันให้เป็นไปตามเป้าหมาย
ด้านการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 20.6 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของ ปีก่อน คิดเป็น 4.4% เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ การใช้ LPG เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 15.8 ล้านกก./วัน ลดลงจากปีก่อนคิดเป็น 12.9% โดยปริมาณการใช้ภาคปิโตรเคมีลดลงมากที่สุด มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 5.5 ล้านกก./วัน คิดเป็นอัตราลดลง 24.5% ภาคขนส่งมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 2.6 ล้านกก./วัน คิดเป็นอัตราลดลง13.5% ภาคครัวเรือนมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 5.9 ล้านกก./วัน คิดเป็นอัตราลดลง 1.9% และภาคอุตสาหกรรมมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 1.8 ล้านกก./วัน คิดเป็นอัตราลดลง% 1.8
เช่นเดียวกับ การใช้ NGV เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 4.9 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 12.6% โดยมีสาเหตุมาจากการปรับราคา NGV สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไปให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ประกอบกับนโยบายส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ทำให้ประชาชนและรถโดยสารหันไปใช้ดีเซลหมุนเร็วบี 20 ทดแทน
ทั้งนี้ การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง มีปริมาณรวมลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 922,977 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลง 10.3% คิดเป็นมูลค่า 59,406 ล้านบาท/เดือน เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นทำให้ต้องลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบเข้ากลั่นลง สำหรับน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการนำเข้าน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยานและก๊าด และ LPG โดยมีปริมาณนำเข้าลดลงอยู่ที่ 30,392 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลง 64.9% คิดเป็นมูลค่า 1,947 ล้านบาท/เดือน
ส่วนการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยานและก๊าด และ LPG โดยมีปริมาณส่งออกลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ 175,222 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลง 6.7% คิดเป็นมูลค่า 11,234 ล้านบาท/เดือน