'สามารถ' ยกคำอธิบาย 'นริศ' เปิดปมไข่แพง ให้ปชช.ควรรับรู้
"สามารถ" ผู้ช่วยรมต.ยธ. ยกคำอธิบาย "ส.ส.นริศ" เปิดปมไข่แพง ให้ปชช.ควรรับรู้
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ชื่อ สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ระบุข้อความว่า หลังจากที่ผมเคยโพสต์เรื่องไข่ไก่ ราคาแพง จนผิดปกติ วันนี้ราคาไข่ไก่กลับมาปกติแล้ว เพราะมันเป็นหลักเศรษฐศาสตร์ พ่อค้าอาศัยกำไรจากหลักการกลไกตลาดที่ใช้ ระบบอุปสงค์-อุปทาน หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า demand/supply ที่พ่อค้าคนกลางอาศัยความตื่นกลัว-ตระหนก-วิตกกังวล กลัวว่าหลังจากที่ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีการประกาศ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 พ่อแม่พี่น้องประชาชนกลัวเรื่องการห้ามเดินทางออกจากบ้าน ( วิตกไปเอง ) จึงทำให้มีการซื้อไข่กักตุนไว้ จึงทำให้ไข่หายไปจากตลาด
ประกอบกับสื่อโซเชียลมีเดีย มีการประชาสัมพันธ์ พร้อมสื่อกระแสหลักลงข่าว ไข่หาย ไข่แพง จึงทำให้คนยิ่งซื้อเพิ่ม (เพราะกลัวหาไม่ได้ ) จึงทำให้ อุปสงค์ มากกว่า อุปทาน ราคาไข่ไก่จึงพุ่งสูงขึ้น จนเวลานี้สถานการณ์ดังกล่าวหายไป ไข่ไก่มีมาก ผลิตได้มาก อุปทานมากกว่า อุปสงค์ ราคาไข่ไก่จึงกลับสู่ภาวะปกติ ที่เรียกว่าจุด ดุลยภาพ นั่นเอง
ผมเองได้อ่านบทความของพี่ ส.ส.นริศ ขำนุรักษ์ เขียนไว้คล้ายกัน จึงขออนุญาตนำข้อมูลมาสนับสนุนให้ พ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยได้อ่านกัน
ข้อความมีดังนี้
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ขยายวงกว้างขึ้น กินระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น และเมื่อได้มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มีผลเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหา ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมาก สับสนกับสถานการณ์ เกิดความตระหนก ว่าจะมีการระบาดของเชื้อโรคร้ายที่รุนแรงขึ้น ขยายวงกว้างขึ้น และยาวนานมากขึ้นอีก ประกอบกับมีข่าวลือตลอดเวลาถึงการปิดเมือง ปิดประเทศ ประกอบกับประชาชนส่วนหนึ่งให้ความร่วมมือกับคำร้องขอจากฝ่ายรัฐ ที่ขอให้ลดการออกจากบ้านและเว้นระยะห่างในการเข้าสังคม ผู้คนจึงแห่กันไปกักตุนสินค้าเพื่อตั้งรับกับสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จนทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาแพงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งไข่ไก่ ที่ประชาชนคนไทยต้องมีติดบ้านไว้ทุกครัวเรือน ได้มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นมากถึง 30-40 สตางค์ต่อฟอง เปรียบเทียบกับในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเคลื่อนไหวอยู่ที่ฟองละ 2.60 - 2.70 บาท และปรับราคาสูงขึ้น จนเข้าข่ายผิดกฏหมาย เพราะบางที่ขยับราคาเอาเปรียบผู้บริโภคไปถึงกว่า 5 เท่า และมีการกักตุนเพื่อหากำไรจากพ่อค้าอีกด้วย
ยังถือว่าโชคดีที่รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ด้วยมาตรการจับกุมผู้ค้าไข่ไก่ที่ค้ากำไรเกินควร หรือผิดกฎหมาย และสั่งห้ามส่งออกไปต่างประเทศเป็นเวลา 7 วันก่อนและต่ออีก 30 วัน จากการดำเนินการ 2 มาตรการนี้ ทำให้ราคาไข่ไก่กลับลงมาอยู่ในราคาเดิมในเวลาอันรวดเร็ว
ที่จริงแล้วตามข้อมูล ภาวะที่ไข่ไก่ราคาพุ่งแรงแบบนี้จะเกิดขึ้นไม่นาน เป็นเพียงระยะสั้นๆ ซึ่งไข่ไก่จะไม่ขาดแคลนแน่นอน เพราะประเทศไทยเราสามารถผลิตไข่ไก่ได้ปีละกว่า 15,000 ล้านฟอง หรือประมาณวันละ 41 ล้านฟอง ไข่ไก่เกือบทั้งหมด ร้อยละ 95 ใช้บริโภคภายในประเทศ วันละประมาณ 39 ล้านฟอง ที่เหลือประมาณวันละ 1-2 ล้านฟอง ถูกส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อรัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการหยุดส่งออกไข่ไก่ชั่วคราวไปอีก30 วัน เชื่อว่าราคาไข่จะกลับมาเป็นปกติ ซึ่งประชาชนไม่มีความจำเป็นที่ต้องกักตุนไข่ไก่เลย เพราะไข่ไก่จะมีวันไม่ขาดแคลนตามหลักเหตุผล ถ้าหากทุกคนซื้อไข่ไก่ไว้ใช้ในการบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ ปริมาณและการบริโภคเข้าสู่สมดุล ราคาไข่ก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ กลไกตลาดก็จะกลับสู่สมดุลอีกครั้งอย่างแน่นอน ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะความสับสน และตระหนกของพี่น้องประชาชน
เช่นเดียวกับสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นก็เช่นกัน ก็ไม่ควรตะหนกว่าจะขาดแคลน ไม่ควรกักตุน ปล่อยให้เป็นไปตามระบบของตลาด รวมทั้งผู้ประกอบการจัดส่งสินค้าก็ไม่ควรถือโอกาสนี้เอาเปรียบผู้บริโภค ทุกฝ่ายต้องยึดหลักกฏหมาย และหลักคุณธรรม เลิกเอาเปรียบกันในยามนี้ อย่าโก่งราคา อย่ากักตุนสินค้า ถ้าร่วมือกันจริงจัง คาดว่าจะฝ่าวิกฤติที่เลวร้ายนี้ไปได้ ช่วยกันครับ
ด้วยความห่วงใย เรามาก้าวข้ามผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
Stay healthy and be positive+
พ่อแม่พี่น้องประชาชนได้อ่านข้อความจาก ส.ส. นริศ จะเห็นได้ว่าข้อมูลที่นำเสนอนั้นเป็นข้อมูลจริง ที่พ่อแม่พี่น้องประชาชนควรจะช่วยกันนำเสนอ
เพื่อลดการกักตุน การปั่นราคา การใช้ข้อมูลเท็จ โจมตีรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ในต่างประเทศจะไม่ค่อยเห็น เพราะทุกประเทศเวลานี้เค้าจะหยุดเรื่องการเมืองไว้ก่อน เค้าจะให้กำลังใจรัฐบาลและสนับสนุนร่วมมือทุกฝ่าย ช่วยให้ประเทศผ่านวิกฤตนี้
ผมดูตัวเลขของประเทศไทย ยังน้อยกว่ายุโรป เนื่องด้วยภูมิอากาศ และ ความตั้งใจของท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาที่ตั้งใจช่วยพ่อแม่พี่น้องประชาชน ทั้งท่านรองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ตลอดจน คณะรัฐมนตรี รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เร่งช่วยกันแก้ปัญหาโรคระบาดโควิด-19นี้ไปด้วยกัน
ผมขอขอบคุณพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนที่หยุดอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ผมมั่นใจว่าท่านนายกรัฐมนตรีจะมีมาตรการดูแลคนทุกกลุ่มทุกอาชีพ ดูแลพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกมิติที่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ขอให้ทุกคนร่วมใจกันผ่านปัญหานี้ไปด้วยกันครับ