POLAR ชี้แจงกรณีศาลฯมีคำสั่ง-ผถห.หุ้นใช้สิทธิมาตรา 100

บริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR ชี้แจงข้อมูลตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯสอบถามกรณีศาลอุทธรณ์มีคำสั่งและกรณีผู้ถือหุ้นใช้สิทธิตามมาตรา 100 โดยระบุว่าเมื่อวันที 20 มีนาคม 2563 ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีหนังสือขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลนั้น POLAR จึงขอชี้แจงข้อมูลต่อท่าน ดังนี้1. ตามที่เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2561 มีผู้ถือหุ้นของ POLAR จํานวน 5 คน ได้ยื่นฟ้องจําเลยทั้งสองต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ในวันที่ 26 สิงหาคม 2561 ของ POLAR และขอห้ามมิให้จําเลยทั้งสองนํามติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ของ POLAR ซึ่งเกิดจากการบอกกล่าวนัดประชุมทีฝ่าฝืนกฎหมายและไม่ชอบด้วยกฎหมายไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนบริษัทมหาชน พร้อมกับยื่นคําร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา โดยศาลชันต้นได้ไต่สวนแล้วมีคําสั่งห้ามมิให้จําเลยทั้งสองนํามติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ของ POLAR ที่จําเลยทั้งสองได้จัดให้มีขึ้นในวันที 26 สิงหาคม 2561ไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนบริษัทมหาชน และห้ามนายทะเบียนบริษัทมหาชน จดทะเบียนและแก้ไขเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนของ POLAR จนกว่าศาลจะมีคําสังเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น

ต่อมาศาลชั้นต้นได้พิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งห้าจึงอุทธรณ์พร้อมกับยื่นคําร้องขอคุ้มครองชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ขอให้ศาลมีคําสังห้ามมิให้จําเลยทั้งสองนํามติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ของ POLAR ที่จําเลยทั้งสองได้จัดให้มีขึ้นในวันที 26 สิงหาคม 2561 ไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนบริษัทมหาชนและห้ามนายทะเบียนบริษัทมหาชน จดทะเบียนและแก้ไขเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนของ POLAR จนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคําสังหรือคําพิพากษาต่อไป ต่อมาเมื่อศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วได้มีคําสั่งห้ามมิให้จําเลยทั้งสองนํามติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ของ POLAR ที่จําเลยทั้งสองได้จัดให้มีขึ้นในวันที 26 สิงหาคม 2561 ไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนบริษัทมหาชน และห้ามนายทะเบียนบริษัทมหาชน จดทะเบียนและแก้ไขเปลียนแปลงทางทะเบียนของ POLAR ในระหว่างอุทธรณ์ ต่อมาจําเลยได้ยื่นคําร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบและขอยกเลิกคําสั่งขอคุ้มครองชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ศาลชันต้นได้มีคําสังให้ส่งศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาต่อไปนั้น

ต่อมาเมื่อวันที 17 มีนาคม 2563 ศาลอุทธรณ์ได้มีคําสั่งว่าการที่ศาลอุทธรณ์มีคําสั่งคุ้มครองชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งห้านั้นชอบแล้ว จําเลยไม่อาจยื่นคําร้องขอให้ศาลยกเลิกคําสั่งคุ้มครองชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ได้ ให้ยกคําร้องของจําเลยส่วนฟ้องของโจทก์ทั้งห้าศาลอุทธรณ์ได้มีคําพิพากษายืน

หลังจากคําสั่งและคําพิพากษาของศาลอุทธรณ์แล้ว ในส่วนผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อPOLAR เกี่ยวกับคําสั่งคุ้มครองชั่วคราวที่ห้ามมิให้จําเลยทั้งสองนํามติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่1/2561 ของ POLAR ที่จําเลยทั้งสองได้จัดให้มีขึ้นในวันที 26 สิงหาคม 2561 ไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนบริษัทมหาชน และห้ามนายทะเบียนบริษัทมหาชนจดทะเบียนและแก้ไขเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนของ POLAR จนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคําสังหรือคําพิพากษาต่อไปนั้น ให้ถือว่าเป็นอันยกเลิกเมื่อพ้นกําหนดเจ็ดวันนับแต่วันที่ศาลอุทธรณ์มีคําพิพากษาหรือคําสั่งเว้นแต่โจทก์ทั้งห้าจะได้ยื่นคําขอฝ่ายเดียวต่อศาลชั้นต้นภายในกําหนดเวลาดังกล่าว แสดงว่าตนประสงค์จะยื่นฎีกาคําพิพากษาหรือคําสั่งนั้น และมีเหตุอันสมควรที่ศาลจะมีคําสั่งให้วิธีการชั่วคราวเช่นว่านั้นยังคงมีผลใช้บังคับต่อไป ในกรณีเช่นว่านี้ถ้าศาลชันต้นมีคําสังให้ยกคําขอของโจทก์ทั้งห้า คําสั่งของศาลให้เป็นที่สุด ถ้าศาลชั้นต้นมีคํา
สั่งให้วิธีการชั่วคราวยังคงมีผลใช้บังคับต่อไป คําสั่งของศาลชั้นต้นให้มีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่าจะครบกําหนดยื่นฎีกาหรือศาลมีคําสั่งถึงที่สุดไม่รับฎีกาแล้วแต่กรณี และหากเมื่อโจทก์ทั้งห้ามีการฎีกาแล้วคําสั่งของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับคําสั่งคุ้มครองชั่วคราวที่ห้ามมิให้จําเลยทั้งสองนํามติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ของ POLAR ที่จําเลยทั้งสองได้จัดให้มีขึ้นในวันที่ 26 สิงหาคม 2561 ไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนบริษัทมหาชน และห้ามนายทะเบียนบริษัทมหาชน จดทะเบียนและแก้ไขเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนของ POLAR จนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคําสังหรือคําพิพากษาต่อไปนั้น ให้ถือว่ามีผลใช้บังคับจําเลยทั้งสองและนายทะเบียนต่อไปจนกว่าศาลฎีกาจะมีคําสั่งเป็นอย่างอื่น

2. ตามที่มีผู้ถือหุ้น POLAR ได้มีหนังสือลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 ขอให้คณะกรรมการบริษัทเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นตามมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจํากัดเพื่อพิจารณาแต่งตั้งกรรมการเพิ่มและเปลี่ยนแปลงกรรมการซึ่งมีอํานาจลงลายมือชื้อผูกพันบริษัทนั้น มีกรรมการบางท่านได้รับหนังสือดังกล่าวแล้ว โดย POLAR จะดําเนินการตามกฎเกณฑ์ที่เกียวข้องต่อไป