เด้ง '2 ตร.สภ.คลองด่าน' ยัดข้อหาเรียกรับเงิน พร้อมตั้งกรรมการสอบ
เด้ง "2 ตร.สภ.คลองด่าน" ยัดข้อหาเรียกรับเงิน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ลั่นหากผิดไม่เอาไว้ลงโทษทางวินัยและอาญา คาดรู้ผลภายใน 15 วัน
เมื่อวันที่ 27 เม.ย.63 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ขอเปิดเผยถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์นำเสนอ “ผู้เสียหายร้องสอบ ตร.สภ.คลองด่าน อ้างถูกยัดคดี-เรียกเงินแสน” ว่า ได้รับรายงานจาก ภ.จว.สมุทรปราการ ว่า ในประเด็นดังกล่าว พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าวแล้ว กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศดาบตำรวจและสิบตำรวจตรี สังกัด สภ.คลองด่าน จะกระทำผิดวินัยเนื่องจากทางชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้มีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีอาญาในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยมีสาเหตุ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 ราย ได้จับกุมผู้ต้องหา ในคดีเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษและถูกพาดพิงกล่าวหาว่าได้ทำร้ายร่างกายผู้ต้องหา และได้ทำการหน่วงเหนี่ยวกักขัง เพื่อกรรโชกทรัพย์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 เม.ย.63 ต่อเนื่องเช้าวันที่ 6 เม.ย. 63 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ
รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยจะตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน และมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 ราย ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ โดยขาดจากตำแหน่งเดิม ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการลงทัณฑ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กระทำในลักษณะนี้ทั้ง ไล่ออก ปลดออก ให้ออก หากความผิดปรากฎชัดเจน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศมาโดยตลอด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง และข้อบังคับที่กำหนด อย่างเคร่งครัด ส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นที่ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือปฏิบัติงานไม่สนองนโยบายของผู้บังคับบัญชา ก็จะไม่เข้าข้างอยู่แล้ว โดยหากผลการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำความผิดจริง จะดำเนินการทั้งทางอาญาและวินัยอย่างเด็ดขาดไม่มีละเว้น ไม่มีการให้ความช่วยเหลือ ว่ากันไปตาม ข้อเท็จจริงพยานหลักฐานที่ปรากฎ แต่อย่างไรก็ตาม คงต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยให้รายงานผลการตรวจสอบโดยเร็ว เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยของสังคม
อีกทั้งกำชับให้ผู้บังคับบัญชาสอดส่องดูแลความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ทั้งในเวลาราชการ และนอกราชการ ตามคำสั่ง ตร. ที่ 1212/2537 โดยหากตรวจพบว่าผู้บังคับบัญชามีการปล่อยปละละเลย ไม่กวดขันในด้านความประพฤติและวินัยของผู้ใต้บังคับบัญชาจนเกิดข้อบกพร่อง เสียหาย ก็จะพิจารณาโทษด้วยเช่นกัน