คนว่างงานเฮ! กระทรวง อว.จ้างงาน '10,000 อัตรา'

วานนี้ (29 เมษายน 2563) ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(รมว.อว.) ได้ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ และเริ่มดำเนินโครงการการจ้างงานประชาชน 1 หมื่นคน ใน 42 หน่วยงานเป็นการดำเนินการตามภารกิจของอว.

ตอบโจทย์โลกในยุคโควิด -19 และหลังโควิด -19 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเฉพาะการจ้างงานประชาชน ดังนั้น อว.จึงได้เกิดโครงการสร้างงาน จ้างงาน เพื่อให้ประชาชน นักศึกษา บัณฑิตได้มีงานทำที่ไม่ใช่เพียงประทังความเดือดร้อนระยะสั้น แต่ต้องมีโอกาสในการทำงานระยะยาวด้วย นั่นคือ จะมีการ Re-skill และ Up-skill ให้มีทักษะ สมรรถนะในการจะทำงานเพิ่มมากขึ้น

โดยการจ้างงานในครั้งนี้ จะเป็นการพัฒนาผู้ว่างงาน ชุมชนและยกระดับ SME ในชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับนายกรัฐมนตรีที่ได้ให้ความสำคัญกับท้องถิ่น ดังนั้น งานในท้องถิ่นมีมากมาย หน้าที่ของหน่วยงานจ้างงาน ทั้ง 42 แห่ง ของอว.จะทำหน้าที่รับสมัคร มอบหมายงาน ให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ได้รับการจ้างงาน การฝึกทักษะที่จำเป็นต่อการทำงาน การติดตามและประเมินผล 

ที่สำคัญโครงการนี้ หากผู้ที่ได้รับการจ้างงานต้องการนำทักษะที่ได้รับจากการทำงานไปประกอบอาชีพใหม่ โดยแต่ละหน่วยงานที่เข้าร่วมจะเริ่มเปิดรับสมัครประมาณ ต้นเดือน พฤษภาคมนี้ ดังนั้น ผู้สนใจขอให้ติดตามการดำเนินงานของแต่ละหน่วยงานที่เข้าร่วม หรือหน้าเว็บไซต์ของ อว.ได้

ทั้งนี้ มีหลายโครงการในการพัฒนาคน สร้างงาน ไม่ว่าจะเป็น โครงการยุวชนสร้างชาติ โครงยุวชนอาสา บัณฑิตอาสา เพื่อทำให้นักศึกษา บัณฑิตมีงานทำในช่วงที่เรียนอยู่ รวมถึงบัณฑิตว่างงาน และมีโครงการ Re-Skill และUp-Skill ซึ่งเป็นนโยบายหลักของอว. ในการช่วยบัณฑิต แรงงานทุกคน ยิ่งในช่วงหลังโควิด-19 เชื่อว่าจะมีผู้ตกงานมากขึ้น โครงการเหล่านี้จะตอบโจทย์ทั้งความต้องการของแรงงาน และประเทศได้บุคลากร ทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ

นอกจากนั้น ยังมีโครงการทุเลาความเดือนร้อนของนิสิต นักศึกษา ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว เช่น การลดค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าเล่าเรียน ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ม.รัฐ ม.ราชภัฎ ม.ราชมงคล และม.เอกชน รวมถึงการปรับกระบวนการการเรียนการสอนออนไลน์ เป็นโจทย์สำคัญในการผลักดันเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

“ก่อนที่จะมีโควิด อว.ก็มีหลายโครงการที่เป็นรูปธรรมในการสร้างคน และนี่จะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะจ้างคน สร้างงานให้คน 10,000 อัตรา ที่ได้รับผลกระทบโควิดในระยะเวลา 5 เดือน ซึ่งแม้จะเป็นมาตรการระยะสั้น 5 เดือน แต่จะเป็น 5 เดือนที่มีค่าหากผู้เข้าร่วมโครงการนำไปต่อยอดหรือนำทักษะ ที่ได้รับการจากการทำงานไปประกอบอาชีพใหม่”รมว.อว.กล่าว

อว.พร้อมที่จะเปิดรับให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมโครงการการบ่มเพาะธุรกิจของหน่วยงานของ อว.ได้ และในระยะต่อไป อว.ก็ได้เตรียมเสนอของบประมาณในส่วนของ พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้าน เพื่อการจ้างงาน รวมถึงการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพ ซึ่งจะเป็นการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน เกษตรกร ตลอดจนผู้ประกอบการรายย่อยได้

โครงการสร้างงานสำหรับประชาชน จำนวน 10,000 คน จะเข้ามาทำงานภายใต้หน่วยงานของ อว. จำนวน 42 หน่วยงาน ซึ่งจะเป็นหน่วยงานจ้างงาน ที่จะจ้างงานประชาชนให้มาทำงานภายใต้ภารกิจของหน่วยงานนั้นๆ โดยผู้ได้รับการจ้างงาน นอกจากจะได้งานทำแล้วยังจะได้รับการพัฒนาทักษะทางวิชาการในด้านต่างๆ แตกต่างกันไป ตามที่แต่ละหน่วยงานจัดขึ้น

ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงอว. กล่าวว่าโครงการนี้หน่วยงาน 42 แห่ง จะเป็นผู้กำหนดการรับสมัคร โดยจะต้องเป็นบุคคลที่ไม่ได้รับสิทธิ์อื่นๆ ของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น สิทธิ์ 5,000 บาท หรือ สิทธิ์ทางด้านการเกษตร หรือด้านอื่นๆ ซึ่งหากยังไม่ได้รับสิทธิ์ใดๆ สามารถเข้าร่วมโครงการดังกล่าวได้

นอกจากนั้น ในส่วนของคุณสมบัติของผู้สมัคร เบื้องต้นไม่มีการจำกัดวุฒิการศึกษา ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดอายุ เพียงแต่ขอให้เป็นคนในพื้นที่ เพื่อจะได้เป็นการพัฒนาคนในชุมชนตามภารกิจหลักของอว. และไม่ต้องยุ่งยากกับการเดินทาง ดังนั้น หน่วยงาน 42 แห่ง แบ่งเป็นมหาวิทยาลัย 39แห่ง และหน่วยงานของอว.อีก 3 แห่งสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย และกองทุนส่งเสริม วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

“การจ้างงานจะเป็นไปตามภารกิจของหน่วยงานที่จ้างงานแต่ละแห่งควบคู่การ Re-Skill และUp-Skill ในส่วนของมหาวิทยาลัย 39 แห่งจะกระจายทั่วประเทศ ทำงานพัฒนาร่วมกับชุมชน พื้นที่มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ หรือพื้นที่ใกล้เคียง เช่น การพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน การจัดการน้ำชุมชน อาหาร เรื่องเกษตรปลอดภัย โดยรูปแบบการจางงานของ 42 แห่ง แต่ละหน่วยงานจะสมัครในแต่ละพื้นที่และทางอว.จะจัดสรรงบเพิ่มเติมไปให้”รองปลัดอว.กล่าว

ศ.กิตติคุณ นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธานกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรม (กสว.) กล่าวว่ากองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี นวัตกรรม ได้รับนโยบายจากอว.ในการช่วยพัฒนาแก้ปัญหาโควิด-19 ซึ่งทางกองทุนได้จัดสรรเงิน 1,000 ล้านบาทแก้ปัญหาวิจัยโควิด และในโครงการนี้ จะมีการจ้างงาน บัณฑิต นักศึกษา มาเป็นผู้ช่วยวิจัย ดังนั้น นอกจากค่าตอบแทนที่นักศึกษาจะได้รับ และได้รับประสบการณ์ทำงานวิจัยร่วมกับอาจารย์ มีมูลค่า 100 ล้าน โดยปัจจุบันมีเกือบ 200 วิสาหกิจชุมชน    

โดยงานที่ผู้ที่ได้รับการจ้าง จะไปทำงานกระจายอยู่ในท้องถิ่น หรือชุมชนต่างๆ มากกว่า 1,500 ชุมชน ซึ่งจะเน้นหนักการพัฒนาชุมชนเมือง ชุมชนชนบท อาทิ การพัฒนาระบบเฝ้าระวังโรคติดต่อชุมชน ทำการช่วยสำรวจและจัดทำฐานข้อมูลชุมชนที่สำคัญต่อการเฝ้าระวัง ช่วยในการวางแผนและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อกำหนดแนวทางในด้านสาธารณสุขชุมชน การพัฒนาระบบ Smart Farming ในชุมชน ทำการช่วยสำรวจและจัดทำฐานข้อมูลด้านการเกษตรในชุมชน ช่วยในการวางแผนการพัฒนาระบบ Smart Farming รายเกษตรกร ช่วยในการจับคู่เทคโนโลยีที่เหมาะสม

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ จิสด้า ให้ไปทำโครงการคืนผืนป่าให้ประชาชน ซึ่งผู้ที่ได้รับการจ้างงาน จะต้องปฏิบัติงานได้แก่ การสำรวจพื้นที่ การจัดทำเขตหมู่บ้าน การจัดทำแผนจัดการทรัพยากรที่ดินป่าไม้ การสำรวจข้อมูลรายแปลง เป็นต้น ซึ่งจะครอบคลุมการทำงานในพื้นที่ 2,324,037 ไร่ 16 จังหวัด

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย(วว.) ทำเรื่อง โครงการช่วยเหลือการผลิตแก่SMEและOTOP ในโรงงานบริการนวัตกรรมอาหาร ซึ่งผู้ที่ได้รับการจ้างงาน จะต้องปฏิบัติงานได้แก่ การวางแผนการผลิต การใช้เครื่องมือในการผลิต การควบคุมการผลิต การตรวจสอบมาตรฐานและคุณภาพผลิตภัณฑ์ การวิเคราะห์ต้นทุนการผลิต

หน่วยงานจ้างงานจะเป็นผู้ดำเนินการทุกเรื่อง และต้องส่งรายงานมายังกระทรวงอว.ทุกเดือน เพื่อติดตามผล ทั้งในรูปแบบออนไลน์ และลงพื้นที่ ขอให้ผู้สนใจ และมีคุณสมบัติติดตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการได้ หรือจะติดตามหน้าเว็บไซต์ ของกระทรวง อว. https://www.mhesi.go.th/home/