กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงโยกเงินอุ้นราคาแอลพีจีแตะหมื่นล้านบาท
กบน.ขยายวงเงินอุ้มราคาแอลพีจี ติดลบได้ถึง 1 หมื่นล้านบาท จากกรอบเดิมไม่เกิน 7,000 ล้านบาท พร้อมคงลดเก็บเงินน้ำมันทุดชนิดเข้ากองทุนฯ 50 สตางค์ต่อลิตร เว้นดีเซล บี20 และแก๊สโซฮอล์ อี85 หวังลดผลกระทบโควิด
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.)วานนี้(18 พ.ค.) ว่า ที่ประชุมมีมติให้ขยายกรอบวงเงินดูแลราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) หรือ ก๊าซหุงต้ม จากเดิมติดลบได้ไม่เกิน 7,000 ล้านบาท เป็นติดลบได้ไม่เกิน 10,000 ล้านบาท โดยให้โอนเงินในส่วนของบัญชีน้ำมันสำเร็จรูปไปใช้ในบัญชีกลุ่มก๊าซ LPG และให้โอนคืนบัญชีน้ำมันสำเร็จรูปในภายหลัง และมอบหมายให้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) จัดทำรายงานรับ-รายจ่าย และฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงฯของบัญชีก๊าซ LPG เพื่อรายงาน กบน.ทราบทุกเดือน
โดยการเพิ่มวงเงินดังกล่าว เพื่อให้บัญชีก๊าซ LPG มีสภาพคล่องเพียงพอที่จะนำไปดูราคาขายปลีกก๊าซLPG ขนาดถัง 15 กิโลกรัม ให้ลดราคาลง 45 บาท จาก 363 บาทต่อถัง เหลืออยู่ที่ 318 บาทต่อถัง ตามมาตรการดูแลผลกระทบประชาชนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลายลง ในช่วง 3 เดือน ตามมติ กบน.เมื่อวันที่ 23 มี.ค.63 ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ ส่วนจะต่ออายุมาตรการให้ส่วนลดราคา LPG ลง 45 บาทต่อถังออกไป อีกหรือไม่ จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของ กบน. ในครั้งถัดไป
“จริงๆ แล้ววงเงิน 7,000 ล้านบาทเดิม ก็สามารถดูแลราคา LPG ได้อีก 3 เดือน แต่เนื่องจากราคา LPG ตลาดโลกช่วงต้นเดือน พ.ค.ยังมีความผันผวน ขึ้นไปแตะ 340 ดอลลาร์ต่อตัน ก่อนอ่อนลงมาอยู่ที่ 270 ดอลลาร์ต่อตัน”
นอกจากนี้ กบน. ยังมีมติให้คงมาตรการปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันทุกชนิดลง 50 สตางค์ต่อลิตร เว้น ดีเซล บี 20 ลดจัดเก็บลง 25 สตางค์ต่อลิตร และแก๊สโซฮอล์ อี85 จัดเก็บเพิ่ม 25 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งตามมติ กบน.เดิมจะมีผลตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.2563 -22 พ.ค.2563นั้น จะยืดระยะเวลาลดเก็บเงินดังกล่าวออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อลดภาระผู้ใช้น้ำมันในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และมติดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิด
ทั้งนี้ มติดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด วันที่ 17 พ.ค.2563 กองทุนฯมีเงินสุทธิ 35,176 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน 41,358 ล้านบาท และบัญชีLPG ติดลบ 6,182 ล้านบาท โดยบัญชีน้ำมัน มีเงินไหลออกเดือนละ 37 ล้านบาท และบัญชีLPG มีเงินไหลออกเดือนละ 355 ล้านบาท
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ทั้งการขยายกรอบวงเงินดูแล LPG และการลดเก็บเงินส่งเข้ากองทุนฯ ตามมติดังกล่าว จะไม่มีกรอบระยะเวลาสิ้นสุด จนกว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะเปลี่ยนแปลงไปจากสมมติฐานที่ตั้งไว้ ที่ระดับ 30-40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือทะลุกรอบ 40 -50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จึงจะนำมาพิจารณามาตรการที่เหมาะสมอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ค้าน้ำมัน เช่น พีทีที สเตชั่น และบางจากฯ ได้ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิด 50 สตางค์ต่อลิตร เว้น แก๊สโซฮอล์ อี85 ขึ้น 30 สตางค์ต่อลิตร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.2563 เป็นต้นไป โดยสาเหตุของการปรับราคาในครั้งนี้ เป็นผลมาจากสถานการณ์ราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ ได้ปรับขึ้นสะท้อนราคาน้ำมันดิบ