'กรณ์' ชี้คำสั่งห้ามแบงก์จ่ายปันผล ส่งสัญญาณ 'หนี้เสีย' หนักกว่าที่คิด
"กรณ์" วิเคราะห์สถานการณ์การเงินไทย หลัง ธปท. ออกคำสั่งห้ามธนาคารพาณิชย์จ่ายเงินปันผลและห้ามซื้อหุ้นตัวเองคืน สะท้อนว่า "หนี้เสีย" เลวร้ายกว่าที่คิด พร้อมชี้หลังจากนี้ ที่สำคัญที่สุด คือ การช่วยสภาพคล่องให้ SMEs อยู่รอด
ภายหลังจากวานนี้ (19 มิ.ย.) ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศ สั่งธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) งดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานในปี 2563 รวมถึงงดการซื้อหุ้นคืน เพื่อให้ ธพ. รักษาระดับเงินกองทุนให้เข้มแข็งและรองรับการดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด 19 นั้น
วันนี้ (20 มิ.ย.) นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตขุนคลัง และหัวหน้าพรรคกล้า ได้ออกมาโพสต์แสดงความคิดเห็นบนเฟซบุ๊คส่วนตัว มีใจความว่า
“คำสั่งห้ามธนาคารพาณิชย์จ่ายเงินปันผลและห้ามซื้อหุ้นตัวเองคืน (ลดทุน) เป็นสัญญาณว่าธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประเมินสถานการณ์หนี้เสียว่าเลวร้ายกว่าที่ปรากฏ
ถามว่า ทำไมต้องออกคำสั่งแทนที่จะให้ธนาคารพาณิชย์ประเมินเองตามความเหมาะสม อาจจะเป็นเพราะนายแบงค์พาณิชย์ต้องการคำสั่งเป็นเกราะกำบังจากความไม่พอใจของนักลงทุนที่รอรับเงินปันผล ช่วงหลังหลายคนเข้าไปซื้อหุ้นเพราะราคาลดลงมาก ด้วยหวังผลตอบแทนจากเงินปันผลที่คาดว่าจะได้รับ
ถามว่า ทำไมต้องออกคำสั่งแทนที่จะให้ธนาคารพาณิชย์ประเมินเองตามความเหมาะสม อาจจะเป็นเพราะนายแบงค์พาณิชย์ต้องการคำสั่งเป็นเกราะกำบังจากความไม่พอใจของนักลงทุนที่รอรับเงินปันผล ช่วงหลังหลายคนเข้าไปซื้อหุ้นเพราะราคาลดลงมาก ด้วยหวังผลตอบแทนจากเงินปันผลที่คาดว่าจะได้รับ
วันจันทร์นี้ คาดว่า หุ้นธนาคารมีโอกาสสูงที่จะปรับลงแรง และผลกระทบต่อความมั่นใจทางเศรษฐกิจจะต้องมีอย่างแน่นอน
ที่สำคัญที่สุด คือ การช่วยเหลือสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการอยู่รอด วันนี้ SME ทุกระดับยังเข้าไม่ถึงมาตรการของรัฐบาล ดังนั้นการใช้เงินกู้ของรัฐบาลต้องมีการออกแบบให้ถึงมือผู้ประกอบการโดยตรง รวดเร็ว ไม่รั่วไหล และต้องมีการใช้ในการจัดซื้อสินค้านำเข้าให้น้อยที่สุด รอบหมุนของเงินต้องมากที่สุด”
"ที่สำคัญที่สุด คือ การช่วยเหลือสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการอยู่รอด วันนี้ SME ทุกระดับยังเข้าไม่ถึงมาตรการของรัฐบาล ดังนั้นการใช้เงินกู้ของรัฐบาลต้องมีการออกแบบให้ถึงมือผู้ประกอบการโดยตรง รวดเร็ว ไม่รั่วไหล"