ร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้ายกเครื่องประสบการณ์ใหม่

ร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้ายกเครื่องประสบการณ์ใหม่

เพาเวอร์บายผนึกบีทูเอส ปั้นแฟลกชิพสโตร์ "เพาเวอร์มอลล์" พลิกโฉม งามวงศ์วานครั้งใหญ่

จังหวะที่ห้างร้านค้าปลีกต้องปิดบริการในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดอย่างหนัก เมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา บรรดาผู้ประกอบการต่างใช้เป็นโอกาสในการปรับปรุง ยกเครื่อง รวมทั้งพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ ต้อนรับการกลับมาเปิดให้บริการหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ที่รูปแบบการดำเนินธุรกิจเดิมๆ อาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการและการใช้ชีวิตวิถีใหม่ หรือ นิว นอร์มอล (New Normal) รวมทั้งสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ถดถอย! ส่งผลการแข่งขันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเพื่อช่วงชิงลูกค้าและยอดขายจากคู่แข่งให้ได้มากที่สุด 

โลร็องต์ โปซ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอเเอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การขับเคลื่อนธุรกิจหลังโควิดมุ่งสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าในมิติต่างๆ โดยเฉพาะ ออนไลน์” ที่เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมการจับจ่ายลูกค้าอย่างมากสะท้อนจากการเติบโตถึง 3 หลัก ในช่วงวิกฤติโควิด 

นับเป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่โลกค้าปลีกออนไลน์อย่างเต็มตัว! และเป็นความได้เปรียบของธุรกิจในเครือเซ็นทรัลรีเทลสำหรับแพลตฟอร์มออนไลน์ และการทำตลาดแบบบูรณาการ หรือ ออมนิแชนแนล (Omnichannel) ไม่ว่าจะเป็น Click&Collect การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์และเลือกรับสินค้าที่สาขา  รวมทั้ง Chat&Shop และ Call&Shop  ในการเข้าถึงและให้ลูกค้าเข้าถึงได้ทุกช่องทางแบบไร้รอยต่อ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การชอปปิงที่เหนือกว่า 

โดย “ชอปปิงออนไลน์ จะเป็นเครื่องมือการตลาดหลักของค้าปลีกเครือเซ็นทรัลรีเทล! ควบคู่รีเทลสโตร์ที่มีการพลิกโฉมเพิ่มความทันสมัยรับไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคใหม่

ล่าสุด "เพาเวอร์บาย" ร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ครบวงจร และ บีทูเอส ร้านจำหน่ายหนังสือ สื่อบันเทิง และอุปกรณ์เครื่องเขียนครบวงจร  ได้ผนึกความร่วมมือพัฒนาร้านคอนเซปต์ใหม่ เพาเวอร์บาย x บีทูเอสแฟลกชิพสโตร์” บนพื้นที่กว่า 6,000 ตร.ม. ประเดิมศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ภายใต้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท 

เพาเวอร์บาย x บีทูเอส แฟลกชิพสโตร์ ศูนย์รวมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ หนังสือ อุปกรณ์เครื่องเขียน เรียกได้ว่า ใหญ่สุดในประเทศไทย นอกจากจะมาสร้างประสบการณ์ใหม่ในช่วงที่ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตหลังปลดล็อก เปิดเมือง คาดหวังว่าสีสันแห่งความแปลกใหม่จะผลักดันยอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 20-30%

ทั้งนี้ แฟลกชิพสโตร์แห่งนี้ได้ถูกอัพเกรดความสะดวกแบบวันสต็อปเดสทิเนชั่น (One-stop destination) ดึงความเชี่ยวชาญของทั้งเพาเวอร์บายและบีทูเอส สร้าง จุดแข็ง เป็น จุดขาย ที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ทั้งด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ในบ้าน อุปกรณ์เบ็ดเตล็ด หนังสือ เครื่องเขียน ศิลปะ ฯลฯ พร้อมหมวดหมู่สินค้าใหม่ เช่น หนังสือการ์ตูน อุปกรณ์สมาร์ทโฮม แกดเจ็ต หรือแบ่งพื้นที่ไฮไลต์ 12 โซนหลัก ได้แก่ วิชั่นแอนด์ซาวด์ แกลลอรี, แกดเจ็ต พาราไดซ์, ไวเลสเวิลด์, คุ๊กกิ้งสตูดิโอ, สมาร์ทโฮม ลิฟวิ่ง, แอร์โซน, เกมมิ่งอารีนา, คอมพิวเตอร์, เครเอทีฟ เลเชอร์, เพลินกราวด์ (เพลย์แอนด์เลิร์น) แพชชั่นไลบราลี และสเตชั่นนารี แกลลอรี รวมสินค้ามากกว่า 50,000 รายการ โดยมีการปรับเปลี่ยนสินค้าในแต่ละโซนตามธีมที่น่าสนใจสลับหมุนเวียนทุกเดือน

"ลูกค้าสั่งซื้อออนไลน์ (www.powerbuy.co.th) และรับสินค้าที่ร้านได้ภายใน ชั่วโมง ผ่านพนักงานในร้านที่มีแท็บเล็ตเพื่อนำเสนอสินค้ามากกว่า 20,000 รายการ"

โดยลูกค้าสามารถค้นพบสินค้าและข้อมูลต่างๆ ด้วยหน้าจอสัมผัส 4 จุดในร้านบัญชี Line Official ที่พัฒนาขึ้นเป็นช่องทางสำหรับลูกค้าในการติดต่อกับทีมงาน พร้อมอัพเดทกิจกรรมของแฟลกชิพสโตร์ ไอเทมใหม่ สินค้าลิมิเต็ดเอดิชั่น การสาธิตนวัตกรรมต่างๆ ตามความชอบและสนใจที่แตกต่างกัน  

พลิกโฉมเพาเวอร์มอลล์งามวงศ์วาน

แบรนด์ เพาเวอร์มอลล์” เมกะสโตร์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ครบวงจร ภายใต้กลุ่มเดอะมอลล์ มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจสอดรับยุคดิจิทัลและวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ในยุคเร่งรีบเน้นความสะดวก สามารถควบคุมอุปกรณ์ทุกอย่างในบ้านได้ง่ายผ่านเครือข่ายไร้สาย และระบบล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็น ระบบสั่งการอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน การเปิด-ปิดไฟ ที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตมากขึ้น 

ทั้งนี้ เดอะมอลล์ อยู่ระหว่างพลิกโฉมครั้งใหญ่สาขา งามวงศ์วานนั่นรวมถึง เพาเวอร์มอลล์ ด้วยเช่นกัน จะทำหน้าที่เป็นแฟลกชิพสโตร์ เพื่อยกระดับสู่ศูนย์กลางกรุงเทพฯ โซนเหนือและนนทบุรี ที่กำลังซื้อไม่แตกต่างจากใจกลางกรุงเทพฯ ทีเดียว 

เบื้องต้น เพาเวอร์มอลล์ งามวงศ์วาน มีขนาดพื้นที่กว่า 5,000 ตร.ม. พร้อมคอนเซปต์การจัดวางสินค้าใหม่ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน แผนกเครื่องครัว มี คิทเช่นสตูดิโอ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจการใช้สินค้า