‘ทรัมป์’ ถูกกดดันการเมืองหนัก เรียกร้องให้ ‘สวมหน้ากากอนามัย'
“ปธน.ทรัมป์” ถูกกดดันทางการเมืองหนัก เรียกร้องให้ “สวมหน้ากากอนามัย” ป้องกันโควิด-19
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กำลังถูกกดดันอย่างหนัก ทั้งจากพรรครีพับลีกัน ที่เป็นฝ่ายของเขาเอง และฝ่ายตรงข้ามอย่างพรรคเดโมแครต เพื่อให้ทำตัวเป็นแบบอย่างการสวมหน้ากากอนามัย ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างไม่ลดละ และยังคงอันดับหนึ่งมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก
วุฒิสมาชิก ลามาร์ อเล็กซานเดอร์ ของพรรรครีพับลีกัน ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการสาธารณสุข การศึกษาและบำนาญของวุฒิสภา ระบุว่า การสวมหน้ากากมีความสำคัญ ช่วยควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ และแนวคิดนี้ก็เป็นสิ่งที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสหรัฐผลักดันมาต่อเนื่อง ในการผลักดันให้ผู้นำสหรัฐสวมหน้ากากอนามัยป้องกันโควิด-19
“การที่ทั้งสองพรรคเห็นพ้องให้ ปธน.ทรัมป์สวมหน้ากาก เป็นการขจัดข้อขัดแย้งทางการเมืองที่ว่า ถ้าอยู่ฝ่ายทรัมป์ ต้องไม่สวมหน้ากากอนามัย แต่ถ้าต่อต้านทรัมป์ก็ต้องสวมหน้ากากอนามัย” สว.อเล็กซานเดอร์ กล่าว
ด้าน นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเดโมแครต บอกว่า คำสั่งของรัฐบาลกลางให้สวมหน้ากากในที่สาธารณะเป็นสิ่งที่รอคอยมายาวนาน แต่ ปธน.ทรัมป์ก็ไม่ยอมทำตัวเป็นตัวอย่างด้วยการสวมหน้ากากในที่สาธารณะ
นางเพโลซี พูดในรายการ “This Week” ของ ABC เรียกร้องให้ทรัมป์ทำตัวเป็นแบบอย่างให้แก่ประเทศด้วยการสวมหน้ากากอนามัยที่ไม่ใช่แค่เพื่อปกป้องตัวเอง แต่ยังปกป้องคนอื่นๆ ด้วย
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ว่า การสวมหน้ากากอนามัยเป็นดาบสองคม เพราะทำให้รำคาญและคอยเอามือจับที่อาจทำให้ติดไวรัส และยังวิจารณ์โจ ไบเดน คู่แข่งจากเดโมแครต ที่สวมหน้ากากอนามัยด้วยว่า เหมือนเอาเป้สะพายหลังไปแปะไว้บนหน้า
เว็บไซต์ Worldometer รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกของวันที่ 29 มิ.ย.2563 อยู่ที่ 10,250,325 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อในสหรัฐอยู่ที่ 2,637,077 ราย คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วโลก