'สมชัย' หอบหลักฐาน ยื่น 'เสรีพิศุทธิ์' เลือกตั้งลำปางส่อทุจริต
“สมชัย” หอบหลักฐาน 49 หน้า พร้อมคลิปเสียง ยื่น “เสรีพิศุทธิ์” ตรวจสอบทุจริตเลือกตั้งซ่อมลำปาง อ้างขรก.-รมต.ไม่เป็นกลาง-ซื้อเสียง
เมื่อวันที่ 9 ก.ค.63 ที่รัฐสภา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต เข้ายื่นข้อมูลรายงาน และหลักฐานเหตุทุจริตเลือกตั้ง เขต 4 จ.ลำปาง ต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย และประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร
โดยนายสมชัย กล่าวว่า ตนได้ใช้ความรู้ความสามารถในฐานะอดีต กกต. และพีเน็ต ในการออกแบบสอบถามข้อมูลกับประชาชนในพื้นที่เลือกตั้ง ซึ่งพบข้อมูลเหตุการทุจริตเลือกตั้งแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
1.เหตุทุจริตมาจากข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐวางตัวไม่เป็นกลาง ซึ่งปรากฎมีผู้ใหญ่บ้าน 47% ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 37% อสม. 52% กำนัน 25.5% เช่น คอยเดินแจกเงินตามบ้าน หัวละ 300 บาท รวมถึงการให้ผู้ใหญ่บ้านสำรวจทำบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่อยู่ใช้สิทธิในวันเลือกตั้ง เพื่อนำบัญชีรายชื่อดังกล่าวไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งแทน ซึ่งล้วนเป็นการกระทำความผิดของข้าราชการทเจ้าหน้ที่รัฐ ตาม มาตรา 78 มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับตั้งแต่สองหมื่นถึงสองแสนบาท และถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี
2.เหตุทุจริตมาจากรัฐมนตรี รวมถึงรองนายกรัฐมนตรี และบางคนเป็นกรรมการบริหารพรรค ที่สัญญาว่าจะให้ ระหว่างตรวจราชการในพื้นที่เขตเลือกตั้ง ในช่วงที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งแล้ว โดยรับปากสัญญาว่าจะให้โครงการต่างๆ ถึง 12 โครงการ อาทิ โครงการสร้างโรงอบสมุนไพร มูลค่า 16 ล้านบาท โครงการก่อสร้างอาบเก็บน้ำแม่ปะมูลค่า 150 ล้านบาท ซึ่งไม่ระบุว่าใช้เงินงบประมาณส่วนใด และเมื่อตรวจสอบในงบฯ ปี 2563 และ 2564 ไม่พบว่ามีการเสนอโครงการดังกล่าว เป็นความผิดตามมาตรา 73(2) ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. นอกจากมีโทษถึงตัวแล้ว หากกรรมการบริหารกระทำเองย่อมมีโทษถึงขั้นยุบพรรค ตาม มาตรา 132 ของพระราชบัญญัติดังกล่าว
“ผมยังขอตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนเลือกตั้ง 2 วัน พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้ลงไปประชุมกับข้าราชการที่ศาลาว่าการจังหวัดลำปาง จากนั้น ก็ไปประชุมต่อกับประชาชน และกำนันผู้ใหญ่บ้านเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งทั้งที่จังหวัดลำปางไม่ฝช่พื้นที่ภัยแล้งตามที่ปรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศไว้” นายสมชัย กล่าว
3.เหตุทุจริตมาจากกรณีการจ่ายเงินซื้อเสียง ซึ่งจากการสำรวจประชาชนในพื้นที่ 102 ราย พบว่า 97 คนให้ข้อมูลตรงกันว่ามีการซื้อเสียง คนละ 300 บาท และใน 102 คนนี้ มี 25 คน พร้อมเป็นพยานให้การต่อกกต.
4.ปัญหาการสวมสิทธิเลือกตั้งแทนบุคคลอื่น โดยนายสมชัย ได้เปิดเผยคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นหลักฐานการสวมสิทธิในพื้นที่เลือกตั้ง เขต 4 จ.ลำปาง พร้อมกับตั้งคำถามถึงสถานการณ์ที่ประเทศกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้การเดินทางกลับภูมิลำเนายากลำบาก แต่ทำไมจำนวนผู้มาใช้สิทธิกลับใกล้เคียงการเลือกตั้งทั่วไป
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่ประชาชนไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันว่าถูกสวมสิทธิไปเลือกตั้งแทนอีก 30 ราย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้ทั้งส่วนที่เป็นพยานบุคคล และพยาวัตถุ เราจะส่งไปให้พรรคสร. เพื่อให้พรรคสร.ส่งไปยัง กตต. เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป