พาณิชย์รับเงินบาททำข้าวไทยแพงขายลำบากในตลาดโลก
“จุรินทร์”ดันยุทธศาสตร์ข้าว 5 ปี วางรากฐานผลิตข้าวไทย ชี้เงินบาท-โควิด-ทำข้าวไทยส่งออกปีนี้ตำ่กว่าที่คาดการณ์ เผยให้ทูตพาณิชย์เร่งหาตลาดใหม่และประชาสัมพันธ์ข้าวไทย พร้อมมอบรางวัลประกวดข้าวหอมมะลิ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้เกษตรกร
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลได้กำหนดวิสัยทัศน์ "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" ภายใต้ยุทธศาสตร์ "ตลาดนำการผลิต" เพื่อนำมาใช้ทำยุทธศาสตร์ข้าวแห่งชาติใน 5 ปีถัดจากนี้ไปนับตั้งแต่ปี 2563 คือปีนี้ไปจนกระทั่งถึงปี 2567 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่การจัดทำยุทธศาสตร์ข้าวไทยได้ นำตลาดมาเป็นแนวทางหลักในการกำหนดทางการผลิตข้าวต่อไปในช่วง 5 ปี เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนได้มีโอกาสพัฒนาข้าวของเราและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันสินค้าข้าวอย่างยังยืนอนาคต ซึ่งการพัฒนาคุณภาพข้าวและการพัฒนาพันธุ์ข้าวไทย ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทุกคนจะต้องมีส่วนช่วยกัน เพื่อผลิตข้าวให้ตรงความต้องการของตลาดและสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกได้
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสถานการณ์ข้าวไทยในตลาดโลกขณะนี้ไม่ค่อยดีเนื่องจากมีปัญหาเรื่องของค่าเงินบาทที่แข็งค่าทำให้ราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข็ง ทำให้หลายประเทศหันไปซื้อข้าวจากประเทศอื่นที่ราคาถูก ดังนั้นจึงต้องทำยุทธศาสตร์ข้าว 5ปี ตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะปลูก การรักษาวิจัยพันธุ์ข้าวชนิดใหม่มากขึ้น การลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นลงมา เพื่อให้วงจรการเพาะปลูกข้าวไทยมีราคาต่ำกว่าคู่แข่ง เป็นต้น นอกจากนี้ตนกำชับทูตพาณิชย์ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกให้เร่งหาตลาดและประชาสัมพันธ์ข้าวไทย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในตลาดต่างประเทศมากขึ้น
“ คาดว่าปีนี้ข้าวไทยจะทำตลาดได้น้อยลงจากตัวเลขที่ทางสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยประเมินไว้ว่าจะส่งออกได้ประมาณ 6.5 ล้านตัน ต่ำกว่าที่เคยมองในช่วงต้นปีว่าน่าจะส่งออกได้ 7-7.5 ล้านตัน โดยสาเหตุหลักจากปัญหาโควิดและเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นถือเป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้ปริมาณการส่งออกข้าวไทยปีนี้ไม่ดีนัก”นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เพื่อให้แนวทางการพัฒนาข้าวไทยดีขึ้น กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดประกวดข้าวหอมมะลิไทยในงานประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย ปีการเพาะปลูก 2562/63 ครั้งที่ 38 การประกวดข้าวตราคุณภาพดีเด่น ประจำปี 2563 และการประกาศเกียรติคุณข้าวหอมมะลิบรรจุถุงที่ได้เครื่องหมายรับรองรูปพนมมือ ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่จัดขึ้นภายใต้ยุทธศาสตร์ "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" ทำให้ผู้ประกอบการตื่นตัวและเห็นความสำคัญในการผลิตข้าวหอมมะลิให้ได้คุณภาพดีตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศจะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกและเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้เกษตรกรในการรักษาพัฒนาคุณภาพข้าวไว้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับรายชื่อผู้ชนะประเภทเกษตรกรรายบุคคล1.รางวัลชนะเลิศ นางประหยัดพร แก้วนอนิน จังหวัดสกลนคร2. รองชนะเลิศอันดับ1 นายฐาปกรณ์ เปดี หนองบัวลำภู 3. รองชนะเลิศอันดับ2 นางพรทิพย์ แสนเมืองแก้ว จังหวัดร้อยเอ็ด และรายชื่อผู้ชนะประเภทสถาบันเกษตรกร
1.รางวัลชนะเลิศ ศูนย์ข้าวชุมชนตำบลเชียงเพ็ง จ. อุดรธานี2. รองชนะเลิศอันดับ1 ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านนาจาน จ.ยโสธร3. รองชนะเลิศอันดับ2 ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวบ้านหนองผือ จ. กาฬสินธุ์