'ดาวโจนส์' ทะยาน 373 จุด ขานรับปัจจัยบวกเศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดแดนบวกเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันในวันพุธ (5 ส.ค.) ขานรับปัจจัยบวกรอบด้าน รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจแข็งแกร่งของสหรัฐ และข้อตกลงระหว่าง "จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน" (J&J) กับรัฐบาลวอชิงตัน ในการพัฒนาและส่งมอบวัคซีนต้านโควิด-19
ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 27,201.52 จุด เพิ่มขึ้น 373.05 จุด (1.4%) ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,327.77 จุด เพิ่มขึ้น 0.6% ส่วนดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 10,998.40 จุด เพิ่มขึ้น 0.5% ปิดแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง
ขณะนี้ วอลล์สตรีทกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ส่วนแนสแด็กทะยานทะลุหลัก 11,000 จุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ช่วงสั้น ๆ ระหว่างการซื้อขายในวันพุธและปิดบวกวันที่ 6 ติดต่อกัน ขณะที่เอสแอนด์พีปิดบวกเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน
ตลาดหุ้นสหรัฐได้รับปัจจัยบวกจากการบรรลุข้อตกลงมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ระหว่างบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) กับรัฐบาลสหรัฐในการพัฒนาและส่งมอบวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 100 ล้านโดส
ขณะเดียวกัน ตลาดยังดีดตัวขานรับการเปิดเผยตัวเลขภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างสภาคองเกรสกับทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
ขณะที่ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.1 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว จากระดับ 57.1 ในเดือนมิ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 55.0 หลังจากดิ่งลงแตะระดับ 41.8 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552
ดัชนีภาคบริการของสหรัฐได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ แม้ว่าการจ้างงานปรับตัวลง โดยดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ
ด้านออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 167,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1 ล้านตำแหน่ง และต่ำกว่าอย่างมากจากระดับ 4.314 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย.
การจ้างงานในภาคบริการเพิ่มขึ้น 166,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 1,000 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ การกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งของโควิด-19 ในสหรัฐ ได้ทำให้รัฐต่าง ๆ พากันชะลอการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ หลังจากมีการปิดเศรษฐกิจก่อนหน้านี้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการเจรจาระหว่างสภาคองเกรสกับทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
นายชัค ชูเมอร์ แกนนำของพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐ กล่าวว่า "เรามีความคืบหน้าในระดับหนึ่ง และใกล้จะบรรลุข้อตกลง โดยแม้ว่ายังมีหลายประเด็นที่ยังไม่สามารถตกลงร่วมกันได้ แต่เราพยายามที่จะผลักดันให้มีการบรรลุข้อตกลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้"
ขณะเดียวกัน ตลาดยังดีดตัวขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัท "วอลท์ ดิสนีย์" แม้มีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐที่ซบเซา
ราคาหุ้นบริษัทวอลท์ ดิสนีย์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 8.8% ในวันพุธ หลังบริษัทเปิดเผยว่ามีกำไร 8 เซนต์/หุ้นในไตรมาส 3 ตามปีงบการเงินของบริษัท สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าบริษัทจะประสบภาวะขาดทุน 64 เซนต์/หุ้น
ดิสนีย์ยังเปิดเผยว่า บริษัทมีสมาชิกในการรับบริการสตรีมมิ่งผ่านทาง Disney+, Hulu และ ESPN+ มากถึง 100 ล้านราย
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการเจรจาระหว่างนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ในวันที่ 15 ส.ค. เพื่อประเมินความคืบหน้าในการปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเฟสแรก ซึ่งรวมถึงการที่จีนสัญญาที่จะนำเข้าสินค้าสหรัฐมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 2 ปี
ขณะเดียวกัน นักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ (7 ส.ค.) โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 1.36 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 10.7%