นายกฯ หารือเหล่าทัพ จับตา 'ม็อบเยาวชน' หวั่นซ้ำรอย 'ฮ่องกง'
นายกฯ หารือเหล่าทัพ ห่วงม็อบนักเรียน ฝากให้ดูการสร้างเด็กยุคใหม่ ขณะที่ฝ่ายความมั่นคง เปิดทางให้เยาวชนร่วมชุมนุม แต่เฝ้าระวังมือมืดปลุกใช้ความรุนแรง ซ้ำรอยฮ่องกงโมเดล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพล ที่มี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน วานนี้ (21 ส.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม ซึ่งมีปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ในฐานะกรรมการ เข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียง
ระหว่างการประชุม ได้มีการหยิบยกสถานการณ์การชุมนุม และการทำกิจกรรมของนักเรียนมัธยมในการเรียกร้องสิทธิ เสรีภาพ รวมทั้งต่อต้านระบบอำนาจนิยมในโรงเรียน และครอบครัว
โดย นายกฯ แสดงความเป็นห่วงเรื่องความรู้สึกที่ผูกพันของคนในครอบครัวที่เป็นรากฐานของสังคมไทย รวมถึงการปลุกระดมด้วยการสร้างความเข้าใจผิด ที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง รวมทั้งอยากให้เหล่าทัพไปดูเรื่องแนวทางในการสร้างเด็กยุคใหม่ โดยมองภาพในระยะยาว
แหล่งข่าว เปิดเผยว่า ฝ่ายความมั่นคงยังคงติดตามการจัดกิจกรรมของ นิสิต นักศึกษา ที่มีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนการชุมนุมใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 กันยายนนี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ แต่จะไม่มีการห้าม หรือขัดขวางการจัดกิจกรรม เพราะถือเป็นสิทธิ เสรีภาพ ในการแสดงความเห็น
"น้ำกำลังเชี่ยว อย่าเอาเรือไปขวาง แค่เฝ้าระวัง อย่าให้มีการทำผิดกฎหมายกฎหมายจากการปลุกระดมให้ใช้ความรุนแรง ทำลายหรือเผาสถานที่ต่างๆ เพื่อให้ไปสู่ฮ่องกงโมเดล โดยกำชับให้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ใช้ความอดทน หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุม"
แหล่งข่าว ยังเชื่อว่า การชุมนุมของ นิสิต นักศึกษา จะไม่รุนแรง เพราะรัฐบาลโดยกระทรวงที่เกี่ยวข้องจะเร่งชี้แจง ทำความเข้าใจกับครอบครัว สถาบันการศึกษา รวมทั้งค้นหาต้นตอการเผยแพร่ข้อมูล ชักชวนให้ไปเรียกร้องสิทธิ เสรีภาพของกลุ่มผู้ชุมนุมที่เป็นนักเรียน นักศึกษา พร้อมให้ข้อมูลอีกด้านเพื่อให้เด็กได้พิจารณา อย่างไรก็ตาม น่าสนใจว่า นักเรียนที่ออกมาชุมนุมนั้น เป็นนักเรียนหญิงถึง 95%
ทั้งนี้ ยังเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนจากต่างจังหวัดที่จะเข้ามาผนึกกำลังกับกลุ่มประชาชนปลดแอก โดยเฉพาะกลุ่มพีมูฟ ที่เรียกร้องกดดันให้รัฐแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร แรงงาน กลุ่มเปราะบางทางสังคม ฯลฯ ที่ขณะนี้ถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 ซึ่งหากมีการเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ก็อาจมีการปักหลักชุมนุมยืดเยื้อ