'ราคาน้ำมัน' ปรับลง 3% หลังดอลล์แข็ง
ราคาน้ำมันดิบโลกปรับลดลงในวันพุธ (2 ก.ย.) แรงฉุดจากเงินดอลลาร์แข็งค่า ลดความน่าดึงดูดของสัญญาน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือน ต.ค. ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 41.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 1.25 ดอลลาร์ (2.9%) ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือน พ.ย. ปิดที่ 44.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับตัวลง 1.15 ดอลลาร์ (2.5%)
ตลาดน้ำมันดิบโลกปิดร่วงเกือบ 3% หลังได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ แม้มีการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นลดความน่าดึงดูดของสัญญาน้ำมัน เนื่องจากทำให้สัญญามีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 9.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว โดยปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยด้วยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิง รัฐโอคลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล
ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 6.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 4.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 4.7 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 900,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปก (OPEC) ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ส.ค. ขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ผลิตน้ำมัน 2.693 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนดังกล่าว ซึ่งเกินกว่าโควตาที่กำหนดไว้