สธ.เผยผลลุยตรวจโควิด-19ใน2ชุมชนเชื่อมโยงนักโทษดีเจ
สธ.ลุยตรวจคัดกรองเชิงรุกใน 2ชุมชนเชื่อมโยงดีเจติดโควิด-19 คอนโดย่านพุทธบูชา-ถ.ข้าวสาร รวมกว่า 250 คน ไม่พบเชื้อทั้งหมด
จากกรณีที่ประเทศไทยพบผู้ต้องขังชาย วัย 37 ปี อาชีพดีเจ ติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือโควิด-19 ถือเป็นการติดเชื้อในประเทศรายแรกหลังจากที่ไม่มีการรายงานพบการติดในประเทศมาเป็นเวลา 101 วัน ซึ่งจากการสอบสวนโรคย้อนหลัง14 วันถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2563 พบประวัติอาศัยอยู่ในคอนโดบ้านสวนพุทธบูชา ทำงานเป็นดีเจร้านอาหาร 3 แห่ง คือ ร้านสามวันสองคืน สาขาพระราม 3 พระราม 5 และเฟิร์ส คาเฟ่ ข้าวสาร และกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ได้ลงพื้นที่ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดที่เสี่ยงสูงและเฝ้าระวังเชิงรุกในพื้นที่ 2 ชุมชนนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2563 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค(คร.) สธ. กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 4-5 กันยายน ทีมสอบสวนโรคได้ติดตามและตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิดกับผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด 19 ทั้งที่พักอาศัยและร้านอาหาร 3 แห่ง ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม แต่ได้แนะนำให้ทุกคน กักตัวเพื่อเฝ้าระวังอาการอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วันนับจากวันที่พบผู้ต้องขังรายนี้ครั้งสุดท้าย และหากป่วย มีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ มีเสมหะ หรือจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ให้รีบไปโรงพยาบาลของรัฐเพื่อตรวจหาเชื้อซ้ำ และเข้าสู่ระบบการรักษาทันที นอกจากนี้ สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมืองและกองระบาดวิทยา คร. ร่วมกับสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ทำการคัดกรองเชิงรุกใน 2 ชุมชนที่เกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อรายนี้ รวม 251 คนได้แก่ 1.แหล่งที่พักคอนโดบ้านสวนธน แขวงบางมด เขตทุ่งครุ มีประชาชนมารับบริการ จำนวน 137 คน ผลตรวจไม่พบเชื้อ และ2.บริเวณถนนข้าวสาร จำนวน 114 คน ไม่พบเชื้อทั้งหมด
"แม้ว่าขณะนี้ยังไม่พบรายงานการติดเชื้อในกลุ่มผู้สัมผัส แต่ขอให้ประชาชนยังคงรักษามาตรการป้องกันตัวเองอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า ตลอดเวลาที่อยู่นอกบ้าน ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการนำมือมาสัมผัสบริเวณใบหน้า ตา จมูกปาก เว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่น 1-2 เมตร หลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่แออัด คนรวมกันจำนวนมาก รับประทานอาหารร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัว เพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสและแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น ที่สำคัญคือลงทะเบียน เข้า-ออก สถานที่ที่ใช้บริการผ่าน แพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ทุกครั้ง เพราะเมื่อพบผู้ติดเชื้อจะง่ายต่อการติดตามผู้ที่มีความเสี่ยงเข้าสู่ระบบการเฝ้าระวังอาการ และควบคุมโรค ต่อไป"นพ.โสภณกล่าว
สำหรับรายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019หรือโควิด-19 ในประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6 ราย เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศทั้งหมด และเข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้และสถานกักตัวทางเลือก มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 2 ราย จึงมีผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,281 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 95.27 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 105 ราย หรือร้อยละ 3.05 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 58 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,444 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็นผู้ที่เดินทางมาจาก
สหรัฐอเมริกา 2 ราย เป็นเพศหญิง อายุ 46 ปี และ 83 ปี สัญชาติไทย อาชีพแม่บ้าน เดินทางถึงประเทศไทย วันที่ 31 สิงหาคม 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ที่กรุงเทพมหานคร ผลพบเชื้อจากการตรวจครั้งแรก วันที่ 4 กันยายน 2563 (วันที่ 4 ของการกักตัว) ทั้ง 2 รายไม่มีอาการ ส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร
สหราชอาณาจักร 1 ราย เป็นเพศชาย อายุ 46 ปี สัญชาติฝรั่งเศส อาชีพครูสอนภาษาในโรงเรียนเอกชนเดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 1 กันยายน 2563 เข้ากักตัวในสถานกักตัวทางเลือก (Alternative State Quarantine) ที่กรุงเทพมหานคร พบเชื้อจากการตรวจครั้งแรก วันที่ 4 กันยายน 2563 (วันที่ 3 ของการกักตัว)ไม่มีอาการ ส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพมหานคร
และสิงคโปร์ 3 ราย เป็นเพศชาย อายุ 43 และ 56 ปี อาชีพรับจ้าง และ อายุ 53 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ทุกรายมีสัญชาติไทย เดินทางถึงประเทศไทย วันที่ 4 กันยายน 2563 ได้รับคัดกรองอาการ ที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พบว่ามีประวัติเคยป่วยด้วยโรคโควิด 19 ก่อนเดินทางกลับมาประเทศไทย จึงเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลพบสารพันธุกรรมโควิด 19 ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดฉะเชิงเทรา 2 ราย และ จังหวัดสมุทรปราการ 1 ราย