'จตุพร' เผยนปช. ยันร่วมต่อต้าน 'รัฐประหาร' ฉีก 'รัฐธรรมนูญ'
"จตุพร" เผยนปช. ยันร่วมต่อต้าน "รัฐประหาร" ฉีก "รัฐธรรมนูญ" เตือน รัฐบาลต้องคุ้มครองนักศึกษา
เมื่อวันที่ 10 ก.ย.63 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊กไลฟ์ peace talk โดยตอกย้ำถึงการชุมนุมใหญ่ของพลังเยาวชนหนุ่มสาวในวันที่ 19 ก.ย.ว่า ถ้ากลุ่มอำนาจยกเป็นข้ออ้างทำรัฐประหารแล้ว ตนจะลุกขึ้นต่อต้านอย่างแน่นอน การแถลงของนักศึกษาธรรมศาสตร์ ที่นัดหมายการชุมนุม 19 ก.ย.เป็นการประจานความเสียหายที่เกิดจากผลพวงการยึดอำนาจเมื่อ 19 ก.ย. 2549 แล้วฉีกรัฐธรรมนูญ 2540 ซึ่งเชื่อว่าเป็นฉบับประชาชนที่ดีที่สุดของประเทศไทย จากนั้นก็เขียนรัฐธรรมนูญใหม่มาแทนจนทำให้ประเทศอยู่ในสภาพ 1 ประเทศ 2 ระบบ คือ มีการเลือกตั้ง แต่ซ่อนเผด็จการไว้ในกลไกองค์กรอิสระตาม รธน. 2550
นายจตุพร กล่าวว่า จากรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 แล้วส่งไม้มาถึงยึดอำนาจ 22 พ.ค. 2557 และตนเชื่อว่า จะมีการส่งไม้กันต่ออีก ส่วนเป็นวันใดนั้น คิดว่าไม่นานคงจะเห็นกัน เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ตนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่า รัฐบาลมีหน้าที่ต้องดูแลความปลอดภัยให้กับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ถ้ามีมือที่สามเข้ามาแทรกแซง ทำให้เกิดเหตุบาดเจ็บล้มตาย รัฐบาลต้องรับผิดชอบ อีกอย่าง รัฐบาลต้องอำนวยความสะดวกเรื่องห้องน้ำให้ประชาชน รวมทั้งมีเต็นพยาบาล รถพยาบาลต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องนำมาบริการ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยทางการเมือง แต่ต้องเห็นการชุมนุมของประชาชนเป็นสิทธิเสรีภาพ ถ้ารัฐบาลอยู่ด้วยความรับผิดชอบ ไม่ปากว่าตาขยิบต้องอำนวยความสะดวกให้ประชาชน
“เมื่อวานผมประกาศชัดเจนว่า นายจตุพร พหรมพันธุ์ พูดต่อหน้าอัฐิของวีรชน 2535 ที่ร่วมสู้ร่วมเป็นร่วมตายกันมา ว่า ถ้ามีรัฐประหาร ผมจะลุกขึ้นนำทัพขึ้นต่อสู้อย่างไม่ไหวหวั่น เพราะบ้านเมืองวันนี้แม้มีประชาธิปไตยครึ่งซีก ครึ่งเสียวก็ตาม แต่สิ่งที่เราต้องการให้บ้านเมืองเข้าถึงประชาธิปไตยที่ประชาชนมีอำนาจ และสามารถแก้ไขปัญหาชาติโดยแนวทางสันติวิธี”
อย่างไรก็ตาม ที่อธิบายมานั้น เพราะไม่ต้องการให้เกิดความตายแล้วมีวีรชนขึ้นอีกแม้แต่รายเดียว ที่สำคัญต้องการเปลี่ยนแปลงอย่างสันติวิธี รวมทั้งสะท้อนให้เห็นว่า บ้านเมืองเมื่อปกครองด้วยปืนแล้วจะอยู่กันได้ตลอดไปซึ่งไม่จริง มันต้องปกครองด้วยหัวใจว่า ใครจะครองใจคนได้ก็เป็นผู้ปกครอง สิ่งที่น่าห่วงใยคือ การปลุกของอีกฝ่ายหนึ่งให้เกิดความชิงชังกัน ตนติดตามทุกสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และย้ำว่า ถ้ามีการรัฐประหาร ตนก็จะลุกขึ้นมาต่อสู้ ดังนั้น หวังว่ารัฐบาลจะทำตามปากพูดว่า เห็นเป็นลูกเป็นหลาน
"ขอยืนยันว่า ถ้าผลพวงจากการชุมนุมถูกหยิบยกมายึดอำนาจ ผมและผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลาย ซึ่งจะเป็นทัพใหญ่นั้นจะลุกขึ้นมาต่อต้านคณะรัฐประหารอย่างสุดกำลัง เพราะมีรัฐประหารขึ้น ความหายนะจะเกิดทุกครั้ง” นายจตุพร กล่าว