'จตุพร' แนะผู้จัดชุมนุมแถลงโต้ สว.ปูด นศ.จะไปลาน ร.5 จริงหรือไม่
"จตุพร" แนะผู้จัดชุมนุมแถลงโต้ สว.ปูด นศ.จะไปลาน ร.5 จริงหรือไม่ ลั่นถ้าไม่จริงรีบแถลง เชื่อเป็นเรื่องใหญ่ ส่อเกิดเหตุรุนแรงแทรกซ้อน
เมื่อ 17 ก.ย. 2563 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊คไลฟ์ peace talk โดยเชื่อว่า การชุมนุมในวันที่ 19-20 ก.ย.จะจบหรือไม่นั้น อยู่ที่ฝ่ายรัฐกับผู้ชุมนุมมีความจริงใจต่อกันในการเคลื่อนขบวนไปสถานที่ใดอย่างตรงไปตรงมาและไม่เกิดการปะทะตามเส้นทางการเดิน
นายจตุพร กล่าวว่า การชุมนุมแต่ละเหตุการณ์นั้น ผู้ชุมนุมล้วนมีเป้าหมายถึงชัยชนะเป็นความหวัง เช่นกันกับการชุมนุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ จัดโดยแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เป็นคนละกลุ่มกับเยาวชนปลดแอกที่จัดชุมนุมเมื่อ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ 2 จุดยืน 1 ความฝัน โดยแตกต่างจากแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ที่ยึดการปฏิรูปสถาบัน 10 ข้อ
ส่วนการจะจัดชุมนุมในธรรมศาสตร์นั้น ขณะนี้ชัดเจนแล้วว่า มหาวิทยาลัยไม่ให้สถานที่ชุมนุม การบุกหรือตัดโซ่เข้าไปเป็นอีกเรื่องหนึ่งของผู้ชุมนุม นอกจากนี้สนามหลวงยังชุมนุมทางการเมืองไม่ได้ ดังนั้นเหลือเพียงทางเลือกให้ผู้ชุมนุมต้องเดินทางไปทำเนียบรัฐบาล
อย่างไรก็ตามถ้ารัฐบาลไม่ประสงค์ให้เกิดเรื่องแล้ว ควรสั่งการธรรมศาสตร์เปิดพื้นที่ให้ชุมนุม อีกอย่างธรรมศาสตร์ประกาศมีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว กลับไม่มีความพยายามพูดคุยทำข้อตกลงร่วมกันระหว่างอาจารย์กับศิษย์ เพื่อลดความกดดันตั้งแต่เริ่มต้น
“ความเครียดของการชุมนุมจะทำให้เกิดแรงกระตุ้น เกิดความรู้สึกฮึกเหิม ถ้าไม่เปิดประตูก็ต้องพังเข้าไป ดังนั้นควรเจรจากันฐานะอาจารย์-ลูกศิษย์ ว่า อะไรทำได้หรือไม่ได้โดยยิ่งปิดประตูเท่ากับผลักให้เขาไปทำเนียบเร็วขึ้น”
นายจตุพร กล่าวว่า บทเรียนการชุมนุมนั้น ถ้าไม่ต้องการให้เกิดเรื่องก็ไม่เกิดเรื่อง เมื่อฝ่ายผู้ชุมนุมต้องกับเจ้าหน้าที่ต้องประสานงานดูแลความปลอดภัยให้ผู้มาชุมนุม รวมทั้งควรชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างเปิดเผย จริงใจ ตรงไปตรงมาครบถ้วนในการเคลื่อนขบวนไปยังสถานที่แห่งใด
โดยเฉพาะผู้ชุมนุมควรแถลงข่าว หรือชี้แจงกรณีมี ส.ว.รายหนึ่งให้ข่าวว่า ผู้ชุมนุมจงใจจะเคลื่อนขบวนไปยังลานอนุเสาวรีย์ ร.5 โดยออกข่าวว่า จะไปทำเนียบรัฐบาลเป็นข้อมูลลวง ดังนั้น ถ้าข้อความจาก ส.ว.คนนี้ไม่จริง ผู้จัดชุมนุมต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการเผยแพร่ของวุฒิสมาชิกคนนี้เป็นเรื่องใหญ่ และมีความมละเอียดอ่อน ถ้าคุมไม่ได้ก็เป็นเรื่องใหญ่มาก
“ความละเอียดอ่อนนั้น ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นหนังคนละม้วน ดังนั้น แกนนำผู้ชุมนุม เมื่อเห็นข้อความดังกล่าวแล้ว ยังไม่ชี้แจงข้อกล่าวหา ผมว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าไม่จริงต้องรีบปฏิเสธ และบอกสาธารณชนด้วยว่า มีเส้นทางการเคลื่อนขบวนไปที่ไหนให้ชัดเจน”
นายจตุพร หวังว่า การชุมนุมต้องมีความชัดเจน ถ้าไม่มีแล้ว สิ่งได้เปรียบจะเป็นการเสียเปรียบ ดังนั้น การเรียกร้อง 3 ข้อ 2 จุดยืน 1 ความฝัน ซึ่งมีเสียงสนับสนุนมาก ผู้ชุมนุมควรยึดกุมเป้าหมายให้มั่นคง และต้องรีบชี้แจงข่าวตอบโต้ สว.คนที่ออกมาบอกเช่นนั้น
สิ่งสำคัญคือ เมื่อมีข้อกล่าวหาใหญ่โตขึ้น ถ้าการจัดการของผู้ชุมนุมไม่ประสานกับ จนท.แล้ว ตนเชื่อว่า การชุมนุมจะจบลงแบบสั้นๆ ก็ได้ เพราะการชุมนุมมีเรื่องแทรกซ้อนได้ทุกที ดังนั้น ต้องไม่ทำให้การชุมนุมเป็นเรื่องลึกลับ ปกปิดไว้ ยังแต่จะนำไปสู่เหตุการณ์แทรกซ้อนยิ่งขึ้น
ดังนั้น ทุกชีวิตที่เข้ามาชุมนุมต้องได้รับการคุ้มครองจากรัฐ เมื่อคนหนุ่มสาวต่อสู้จะเป็นแรงกระเพื่อมไปถึงผู้ปกครอง พ่อ-แม่ ถ้าเกิดเหตุรุนแรงกับผู้ชุมนุมแล้ว สุดท้ายพ่อ-แม่ต้องออกมาช่วย แล้วรัฐจะรับมือไม่ไหว จึงเรียกร่้องให้ลดปัญหา
“ข้อความ สว.บอกว่าจะไปลานพระบรมรูปทรงม้า ร.5 นั้น ผู้ชุมนุมต้องแถลงให้เด็ดขาด ว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะการโพสต์ของ สว.ว่าผู้ชุมนุมจะไปที่วังนั้น เป็นเรื่องใหญ่ ผู้ชุมนุมควรแถลงข้อเท็จจริงให้ชัดเจน เพราะประชาชนต้องรู้ถึงความตรงไปตรงมากับผู้มาชุมนุม และไม่ให้เหตุการณ์ไม่พึงปรารถนาจะเกิดขึ้น”
สำหรับการกล่าวหาท่อน้ำเลี้ยง โดยรัฐชอบคิดว่า การชุมนุมมีเบื้อหลังนั้น จึงไม่แก้ปัญหาเบื้องหน้า แต่ความจริงถ้าปล่อยการชุมนุมเดินไปตามปกติจะไม่มีปัญหาอะไรเลย ส่วนคนเสื้อแดงจะมาชุมนุมด้วย ตนย้ำมาตลอดว่าเป็นเสรีภาพของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย