สหรัฐขาดดุลบัญชีเดินสะพัดกว่า 50% ไตรมาส2/63
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐพุ่งขึ้น 52.9% สู่ระดับ 1.705 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 12 ปี หลังจากขาดดุล 1.115 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก
ตัวเลขขาดดุลในไตรมาส 2 เทียบเท่ากับสัดส่วน 3.5% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โดยสูงกว่าระดับ 2.1% ของไตรมาสแรก
การพุ่งขึ้นของตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของการส่งออก ขณะที่ภาคธุรกิจปิดกิจการ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ การส่งออกดิ่งลงสู่ระดับ 4.447 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2553 ส่วนการนำเข้าลดลงสู่ระดับ 6.096 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2553
ด้านคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวขึ้น 1.2% ในเดือนส.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 2% ในเดือนก.ค.และ 3.1% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งการปรับตัวของดัชนี LEI ในเดือนส.ค. บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจนถึงสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ ดัชนี LEI ถือเป็นสิ่งบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ โดยคำนวณจากตัวเลขเศรษฐกิจ 10 รายการ ซึ่งรวมถึงคำสั่งซื้อใหม่ของภาคการผลิต, ราคาหุ้น และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน