ไทยโปรโมทมาตรฐาน "SHA"ฟื้นท่องเที่ยว
สธ.-ททท.ชูมาตรฐาน “SHA” ท่องเที่ยวไทยปลอดภัย ผู้ประกอบการผ่านประเมินแล้วกว่า 5,800 ราย โปรโมทตราสัญลักษณ์สร้างความเชื่อมั่นผ่านสาขาททท.ทั่วโลก 29 แห่ง
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากข้อมูลธนาคารไทยพาณิชย์ พบ GDP ไตรมาตรแรกของไทยติดลบเกือบ 2 เท่า กระทบธุรกิจต่างๆ ทั้งธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม นำเข้า-ส่งออก ทำให้เกิดการเลิกจ้างงานจำนวนมาก เฉพาะ 3 กลุ่มเสี่ยงถูกเลิกจ้าง คือ ภาคการท่องเที่ยว แรงงานถูกเลิกจ้างแล้ว 2.5 ล้านคน ภาคอุตสาหกรรม 1.5 ล้านคน และภาคบริการอื่นที่ไม่ใช่การท่องเที่ยว 4.4 ล้านคน การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวกลับมาเป็นหนึ่งในทางที่จะช่วยดึงเงินเข้าประเทศ ประคองไม่ให้ธุรกิจล้มส่งผลเลิกจ้างงานเพิ่มขึ้นอีก แต่การเปิดประเทศต้องทำอย่างปลอดภัย ซึ่งกรมอนามัยเองได้ทำมาตรการสุขอนามัยเพื่อการท่องเที่ยวปลอดภัย โดยร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาทำมาตรฐาน SHA เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวด้วยมาตรการความปลอดภัยและสุขลักษณะที่ดีในแหล่งท่องเที่ยว
มาตรฐานSHA ประกอบด้วย 1.การพัฒนามาตรฐานด้านวิชาการ เรื่องมาตรฐานส้วม อาหารริมบาทวิถี ร้านอาหารปลอดภัย 2.การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญจังหวัด พัฒนาพื้นที่สาธารณะ เช่น ชายหาด สวนสาธารณะ สร้างจังหวัดต้นแบบเพื่อการท่องเที่ยว 3.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมโยงเน้ทางท่องเที่ยว การสร้างความปลอดภัยในสนามบิน เส้นทางเดินทาง/ยานพาหนะ 4.สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย รับรองมาตรฐานความสะอาดในระบบต่างๆ ความปลอดภัยในเส้นทางการเดินทางท่องเที่ยว ความเชื่อมั่นของบริษัทนำเที่ยว/ทัวร์ และ5.การส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว จัดแพ็คเกจทัวร์ลดราคาสำหรับนักท่องเที่ยว กระตุ้นการท่องเที่ยวและการสร้างความยั่งยืน เป็นต้น
“การดำเนินการให้เกิดการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและสร้างวิถีชีวิตใหม่ พัฒนามาตรฐานความสะอาดทั้งส้วม Street Food นาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัด พื้นที่สาธารณะ สร้างจังหวัดต้นแบบเพื่อการท่องเที่ยว เส้นทางการเดินทางท่องเที่ยว แพ็คเกจทัวร์ภายใต้ 3 C คือ Care Clean และ Clear”นพ.สราวุฒิกล่าว
ด้าน น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มาตรฐานสธ.เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความมั่นใจ โดยตั้งแต่เริ่มขับเคลื่อนมาตรฐาน SHA ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 10 ประเภท ด้วยการให้ตรามาตรฐานSHAมาตั้งแต่เดือนพ.ค.2563 มีผู้ประกอบการสมัครเข้ารับการประเมินประมาณ 8,000 ราย และผ่านมาตรฐานนี้แล้ว 5,889 ราย ทั้งประเภทโรงแรม/ที่พัก/ที่จัดสัมนา ภัตตาคาร/ร้านอาหาร แบะบริษัทนำเที่ยว เป็นต้น เมื่อนำดตรามาตรฐานเรื่องการท่องเที่ยร่วมกับสาธารณสุขจะเป็นการการันตีในการรีแบรนด์การท่องเที่ยวไทย โดยมีการโปรโมทตรามาตรฐานนี้ไปในสำนักงานสาขาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 29 สาขาทั่วโลกแล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งในประเทศจีน และญี่ปุ่น ก็เริ่มจะถามผู้ประกอบการก่อนว่าได้มาตรฐานSHAแล้วหรือไม่
น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวด้วยว่า 3 เดือนท้ายปีเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว (High season) ของไทย ซึ่งปีก่อนช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวเข้าไทยกว่า 10 ล้านคน แต่ปีนี้ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา ขณะที่นักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (STV) จากกวางโจว ประเทศจีน กลุ่มแรกที่จะนำร่องเข้ามาเที่ยวภูเก็ต ก็ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 25 ต.ค.หลังหมดเทศกาลกินเจ ซึ่งอยากให้ประชาชนมั่นใจว่านักท่องเที่ยว STV เลือกรับเฉพาะที่มาจากประเทศเสี่ยงต่ำ และทั้งหมดเข้ามาต้องผ่านระบบกักตัวตามมาตรฐานและจำนวนวันที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่นักท่องเที่ยวยังไม่กลับมาสิ่งที่จะช่วยเศรษฐกิจไทยได้คือคนไทยช่วยกันออกไปเที่ยวแบบวิถีใหม่ให้มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้ออกมาตรการส่งเสริมหลายโครงการ อาทิ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง โครงการช็อปดีมีเงินคืน ซึ่งในไตรมาตรสุดท้ายนี้อยากให้คนไทยออกไปเที่ยว ทั้งเที่ยวส่วนตัว หรือเที่ยวไปทำงานไปในรูปของการจัดสัมมนานอกสถานที่ จะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศได้