หุ้นยุโรปปิดบวกรับความหวังแผนกระตุ้นศก.สหรัฐคืบหน้า
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตารัฐบาลในหลายประเทศของยุโรปที่อาจกลับมาใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.72% ปิดที่ 373.00 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,138.41 จุด เพิ่มขึ้น 87.18 จุด หรือ +0.67% ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,979.29 จุด เพิ่มขึ้น 32.48 จุด หรือ +0.66% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,001.38 จุด ลดลง 15.27 จุด หรือ -0.25%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยหนุนจากความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ เพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยทำเนียบขาวได้ยื่นข้อเสนอครั้งใหม่แก่พรรคเดโมแครต ซึ่งจะเพิ่มวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสู่ระดับ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่พรรคเดโมแครตเสนอวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์
หุ้นเคพีเอ็น ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารของเนเธอร์แลนด์ ดีดตัวขึ้น 7% หลังจากสื่อต่างประเทศรายงานว่า บริษัทอีคิวที ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนในหุ้นนอกตลาด (private equity) กำลังพิจารณาเรื่องการเทคโอเวอร์กิจการเคพีเอ็น
หุ้นเดมเลอร์ ผู้ผลิตรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ปรับตัวขึ้น 2% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเดมเลอร์ขึ้นสู่ระดับ “buy” จากระดับ “sell” เนื่องจากโกลด์แมน แซคส์ มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มทางธุรกิจของเดมเลอร์
หุ้นธนาคารโซซิเอเต เจนเนอราล (ซอคเจน) พุ่งขึ้น 3% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์เจฟเฟอร์รีส์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นซอคเจนขึ้นสู่ระดับ “buy” จากระดับ “hold” เนื่องจากคาดว่าซอคเจนจะมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีการจ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้น
หุ้น Euronext ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดหุ้นยุโรป ร่วงลง 3% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากตลาดหุ้นลอนดอน (LSE) ได้ตกลงกิจการตลาดหุ้นอิตาลี (Borsa Italiana) ให้กับบริษัท Euronext เป็นมูลค่า 4.3 พันล้านยูโร หรือประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับมาตรการควบคุมโควิด-19 นั้น นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ฉบับใหม่ทั่วพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ ภายใต้กลยุทธ์กำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ
แนวทางปฏิบัติดังกล่าว แบ่งความเสี่ยงออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับกลาง สูง และสูงมาก โดยในการแจ้งเตือนระดับสูงมากนั้น ผับ โรงยิม บาร์ และคาสิโนจะถูกสั่งปิด ขณะเดียวกันก็ห้ามไม่ให้มีการเดินทางหากไม่จำเป็น