พายุถล่ม! เช็คพื้นที่ 15 จังหวัด เกิดอุทกภัย ดินสไลด์ เดือดร้อน 11,149 ครัวเรือน

พายุถล่ม! เช็คพื้นที่ 15 จังหวัด เกิดอุทกภัย ดินสไลด์ เดือดร้อน 11,149 ครัวเรือน

พิษพายุถล่ม เช็คพื้นที่น้ำท่วม ดินสไลด์ และวาตภัย 15 จังหวัด เดือดร้อน 11,149 ครัวเรือน เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย


14 ต.ค. 63 เวลา 9.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันน้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย ในพื้นที่ 15 จังหวัด รวม 52 อำเภอ 126 ตำบล 394 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,149 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ราชบุรี พังงา ตรัง และสตูล ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง รวมถึงสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2563 – ปัจจุบัน (14 ตุลาคม 2563 เวลา 06.00 น.)
มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย 15 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ชลบุรี ระยอง กาญจนบุรี ชัยนาท ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล รวม 52 อำเภอ 126 ตำบล 394 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,149 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

แยกเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำไหลหลาก 13 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ชลบุรี ระยอง กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ พังงา ตรัง และสตูล รวม 45 อำเภอ 116 ตำบล 376 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,325 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขัง 5 จังหวัด ดังนี้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 12 อำเภอ 35 ตำบล 94 หมู่บ้าน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปักธงชัย อำเภอโนนสูง และโนนไทย สถานการณ์ภาพรวมระดับน้ำท่วมลดลง

ภาคกลาง 1 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ 11 ตำบล 78 หมู่บ้าน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขัง
ที่ลุ่มต่ำทางการเกษตรในพื้นที่อำเภอสวนผึ้ง และอำเภอจอมบึง สถานการณ์ภาพรวมระดับน้ำท่วมลดลง

ภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ พังงา น้ำไหลหลากเข้าท่วมตำบลบางไทร อำเภอตะกั่วป่า ปัจจุบันระดับน้ำลดลง ตรัง น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง อำเภอสิเกา อำเภอวังวิเศษ อำเภอกันตัง และอำเภอห้วยยอด รวม 16 ตำบล 44 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 514 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีฝนตกในพื้นที่ ระดับน้ำท่วมสูงขึ้น สตูล น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอละงู อำเภอท่าแพ และอำเภอควนโดน รวม 9 ตำบล 44 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,192 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง พื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย 3 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท กาญจนบุรี และพังงา รวม 5 อำเภอ 8 ตำบล 16 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 24 หลัง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างการฟื้นฟู

พื้นที่ได้รับผลกระทบจากดินสไลด์ 2 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต และสตูล รวม 2 อำเภอ 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ปัจจุบันเปิดใช้เส้นทางได้แล้ว

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ รวมถึงสนับสนุนเรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ รถบรรทุกติดตั้งเครน รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย
ไปยังจุดอพยพ อีกทั้งแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อการดำรงชีพ สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ให้เร่งสำรวจประเมินความต้องการการช่วยเหลือของผู้ประสบภัย พร้อมจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการประกอบอาชีพชีวิตความเป็นอยู่ ที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตร ปศุสัตว์ สาธารณูปโภค เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ตลอดจนเร่งซ่อมแซมและฟื้นฟูสิ่งสาธารณประโยชน์ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป