สธ.เผยแหล่งหญิงฝรั่งเศสติดโควิด19
สธ.เผยหญิงฝรั่งเศสติดโควิด19ในASQ เร่งติดตามคนใช้ฟิตเนสในASQจ.สมุทรปราการ กำชับงดคนกักตัวออกนอกห้องแม้ผลตรวจครั้งที่2เป็นลบ ประสานสบส.ทบทวนมาตรการ
เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2563ที่กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด19 นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด -19 ในไทย ว่า ในรอบเดือนต.ค. มี 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ สถานการณ์การพบคนขับรถชาวเมียนมาติดเชื้อ เข้ามาที่ อ.แม่สอด จ. ตาก มีการค้นหาผู้สัมผัส และพื้นที่ใกล้เคียง กว่า 1 หมื่นราย ยังำม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม และภายใน 1-2 วันนี้จะครบกำหนด 14 วันแล้ว ขณะนี้มีมาตรการเข้มข้นในการห้ามคนเข้ามาทางชายแดน การเข้มงวดการขนส่งสินค้า
อีกเหตุการณ์ คือกรณีหญิงฝรั่งเศส อายุ 57 ปี ขณะนี้ผู้ติดเชื้ออยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเกาะสมุย จากการสอบสวนโรคมั่นใจมากขึ้นว่าน่าจะเป็นการติดเชื้อภายในประเทศและมีความเป็นไปได้ที่เกิดจากการสัมผัสเชื้อในสถานที่กักกันทางเลือก(Alternative State Quarantine:ASQ) คาดว่าช่วงเวลาติดเชื้อน่าจะเป็นช่วงวันที่ 10-12 ต.ค. ที่ผ่านมา และไม่น่าจะมีการแพร่เชื้อต่อในโรงแรม เพราะหญิงรายนี้ออกมาวันที่ 15 ต.ค. ก่อนมีอาการวันที่ 17 ต.ค. 2563
“ตอนนี้การสอบสวนโรคยังมุ่งเน้นหาสาเหตุว่าการติดเชื้อนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา ถ้าเกิดขึ้นที่สถานที่กักกันจริงก็คงจะต้องมีการทบทวนมาตรการต่างๆ และเข้มงวดในส่วนที่อาจจะก่อให้เกิดการแพร่โรคได้ เพราะเป็นจุดที่ทำให้ในหลายประเทศเกิดการแพร่ระบาดในสถานที่กักกันและต่อมาแพร่ระบาดต่อเนื่องในชุมชน เช่น รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ดังนั้นการกำกับให้สถานกักกันสามารถป้องกันควบคุมโรคได้เต็มที่จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญสูงสุด เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญและดูแล หากทำตามมาตรการทำตามระดับของความเสี่ยงสามารถจัดการปัญหาได้อย่างดีมั่นใจว่าจะสามารถจัดการการแพร่ระบาดโรคในสถานที่เดียวกันได้อย่างดี ขณะนี้แนวทางในASQได้ประสานกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ให้งดนำคนออกนอกห้องก่อน ซึ่งจากเดิมที่ให้ออกจากห้องได้หลังผลการตรวจครั้งที่ 2 เป็นลบ แต่ตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรคไม่ให้ออกนอกห้องเลย และทบทวนมาตรการสำคัญ”นพ.ธนรักษ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีพบเชื้อในฟิตเนสของASQในจ.สมุทรปราการ จำเป็นต้องให้คนที่ใช้ฟิตเนสกักตัวต่ออีก 14 วัน หรือไม่ นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า โดยหลักแล้วการสอบสวนโรคจะมีการระบุผู้สัมผัสของผู้ป่วยในสถานที่กักกันทางเลือกแห่งนี้ และจะมีการแบ่งกลุ่มผู้สัมผัสตามระดับความเสี่ยงต่างๆ และจัดการตามความเหมาะสม เช่น หากสัมผัสเสี่ยงสูงก็จะต้องกักตัวต่อ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำต้องมีการเฝ้าระวัง และจำกัดพื้นที่ ทั้งหมดต้องดูตามความเหมาะสมของแต่ละกรณี
นพ.ธนรักษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการติดตามผู้สัมผัสหญิงฝรั่งเศส สรุปเบื้องต้นของทีมปฏิบัติการที่เกาะสมุยรายงาน ว่ามีผู้สัมผัสทั้งหมด 120 ราย แบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 40 ราย ประกอบด้วยคนในครอบครัวเดียวกัน 2 ราย ผู้สัมผัสในชุมชน 24 ราย ผู้โดยสารเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกัน 12 คน และแท็กซี่ 2 คน ผลตรวจรอบแรกเป็นลบ 27 ราย อีก 13 รายอยู่ระหว่างการรอผลและติดตามตัว และผู้สัมผัสเสียงต่ำ 80 คน ยังไม่มีใครมีอาการ และยังค้นหาผู้สัมผัสต่อเนื่องต่อไป นอกจากนี้ยังได้ปิดร้านนวดและร้าน La Bohemia Beach Lounge
นพ.ธนรักษ์ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ที่มีโอกาสเจอผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าผู้ป่วยมาจากต่างประเทศตามแนวชายแดน เช่น เมียนมา และมาเลเซีย หรือจากต่างประเทศบินเข้ามาและเข้าสู่สถานที่กักกัน ถ้าเจอผู้ติดเชื้อก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ หรือต้องกังวล แต่สิ่งสำคัญคือให้สามารถตรวจเจอผู้ป่วยได้เร็ว ควบคุมการแพร่ระบาดให้อยู่ในวงจำกัด ไม่ให้แพร่ไปในวงกว้างและสนับสนุนให้ประเทศสามารถเปิดประเทศเปิดเศรษฐกิจได้กว้างขวางมากขึ้นอย่างปลอดภั ยสร้างความสมดุลระหว่างสุขภาพสังคมและเศรษฐกิจ และขอความร่วมมือกับประชาชนให้ป้องกันตัวเอง หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนแออัด สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ล้างมือบ่อยๆ รับประทานอาหารร้อน และใช้ช้อนกลางส่วนตัว จะช่วยป้องกันโรคได้อย่างดี