“ศ.นพ.ยง”เผยไทยใช้พลาสมารักษาต่างชาติป่วยโควิด-19แล้ว
“ศ.นพ.ยง”เผยศูนย์บริการโลหิตฯเปลี่ยนพลาสมาจากคนป่วยโควิด-19เป็นเซรุ่ม สำรองได้กว่า 600 ขวด ใช้ป้องกัน-รักษายามจำเป็น เก็บได้นาน 3 ปี ระบุใช้พลาสมารักษาผู้ป่วยต่างชาติ 1 ราย อาการรุนแรง เชื่อได้อานิสงส์จากการให้พลาสมาค่อนข้างเร็ว ผู้ป่วยอาการดีขึ้น
เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2563 เวลา 11.30 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในการแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19ว่า จากกรณีที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ได้มีการเก็บพลาสมาจากผู้ที่เคยติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019ในประเทศไทยรักษาหายแล้ว และมีภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 มากกว่า 400 ถุง เพื่อเตรียมไว้สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 แต่ที่ผ่านมาด้วยความที่กระทรวงสาธารณสุข และประชาชนร่วมมือกันอย่างดีทำให้ไม่มีการระบาดของโควิด-19 ในไทย จึงไม่ได้มีการใช้พลาสมาที่เก็บไว้
“เมื่อราวๆ 10 วันที่ผ่านมา ได้มีการนำพลาสมาไปรักษาผู้ป่วย 1 คนใน Alternative state quarantine เป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีอาการปอดบวมรุนแรง มีค่าออกซิเจนในเลือดต่ำโดยช่วงที่มีอาการหนักสุดจำเป็นต้องให้ออกซิเจนขนาดสูงถึง 80 % จึงมีการตัดสินใจให้พลาสม่าโดยเร็วหลังรับเข้ารักษาในโรงพยาบาล โดยให้ 2 ครั้ง ห่างกัน 2 วัน ตอนนี้ผ่านมา 10 วันล่าสุดผู้ป่วยอาการดีขึ้น สามารถลดค่าออกซิเจนที่ให้ได้ ทั้งนี้ เชื่อว่าผู้ป่วยรายนี้ได้อานิสงส์จากการให้พลาสมาค่อนข้างเร็ว”ศ.นพ.ยงกล่าว
ศ.นพ.ยง กล่าวอีกว่า ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ยังได้มีการนำพลาสมาที่มีภูมิต้านทานโรคโควิด-19 ในระดับสูงไปสกัดทำเป็นเซรุ่มเพื่อใช้ในการป้องกัน และรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้ ขณะนี้แบ่งพลาสมาครึ่งหนึ่งของที่มีอยู่มาทำเซรุ่มได้จำนวนทั้งหมดมากกว่า 600 ขวด ขวดละ 2 ซีซี เพื่อสำรองไว้ใช้ยามจำเป็น โดยสามารถเก็บไว้ได้นาน 3 ปี แต่หากเป็นพลาสมาจะเก็บไว้ได้นาน 1 ปี ซึ่งส่วนของพลาสม่าที่ยังเหลืออยู่หากไม่ได้มีการเอามาใช้ก็จะสกัดเป็นเซรุ่มเก็บไว้ด้วย