นายกฯ เตรียมพร้อมรับ 'ภัยแล้ง' ปี 64 มั่นใจ EEC มีน้ำใช้เพียงพอเสร็จตามแผน
นายกฯติดตามการบริหารจัดการน้ำพร้อมรับ "ภัยแล้ง" พัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ "ยม-น่าน บึงบอระเพ็ด หนองหาน" มั่นใจ EEC มีน้ำใช้เพียงพอเสร็จตามแผน
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ติดตามการบริหารจัดการน้ำอย่างต่อเนื่อง และสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมมาตรการรับภัยแล้ง ปี 2564
ทั้งนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้รายงานว่า ในปีงบประมาณ 2563 ได้ขับเคลื่อนการดำเนินโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญรวม 526 แห่ง เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเป็นระบบ เป็นไปตามแผนแม่บทน้ำ 20 ปี เช่น การปรับปรุงคลองยม-น่าน จังหวัดสุโขทัย การพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ บึงบอระเพ็ด บึงราชนก หนองหาน การจัดทำหลักเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 349 แห่ง และ 9 แผนบรรเทาอุทุกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยา เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่เดินหน้าไปแล้ว 16 โครงการ คิดเป็นปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 254 ล้านลูกบาศก์เมตร และจะเร่งดำเนินโครงการที่เหลือ 22 โครงการให้แล้วเสร็จตามแผนในปี 2573 จะได้น้ำต้นทุนเพิ่ม 872 ล้านลูกบาศก์เมตร เพียงพอต่อการขับเคลื่อนพื้นที่ EEC ในปี 2580
ในส่วนของการแก้ปัญหาภัยแล้งและโครงการเร่งด่วนเพื่อการกักเก็บน้ำในฤดูฝน เฉพาะที่ใช้งบกลางปี 2562/2563 ในภาพรวมมีผลสัมฤทธิ์ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 3.5 แสนครัวเรือน และมีพื้นที่รับประโยชน์ 4.32 แสนไร่
นอกจากนี้ต่อข้อกังวลเรื่องการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งปีหน้า รัฐบาลได้ดำเนินการ 9 มาตรการเพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย
1) เร่งเก็บกักน้ำก่อนหมดฝน
2) จัดหาแหล่งสำรองน้ำดิบในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ พร้อมแผนวางท่อน้ำประปา และแผนรับน้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำโดยตรง
3) ปฏิบัติการเติมน้ำให้กับแหล่งน้ำในพื้นที่เกษตรและที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ
4) กำหนดการจัดสรรน้ำฤดูแล้งเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบการขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภคพร้อมจัดทำทะเบียนผู้ใช้น้ำ
5) วางแผนเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง
6) เฝ้าระวังคุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก สายรอง
7) ส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมจัดการน้ำตามหลัก Reuse Reduce Recycle
8) ติดตามประเมินผลเพื่อให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามแผน
9) สร้างการรับรู้สถานการณ์น้ำและแผนจัดสรรน้ำ ให้ทุกภาคส่วนเกิดความร่วมมือในการใช้น้ำอย่างประหยัดและเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้
นางสาวรัชดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนที่จะได้รับผลกระทบจากน้ำแล้ง-น้ำท่วม จึงได้เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้งและเก็บกักน้ำในฤดูฝนที่ผ่านมาให้แล้วเสร็จตามแผน รวมถึงมอบนโยบายการบูรณาการการบริหารจัดการน้ำในระยะยาวด้วย
ซึ่งจากการติดตามอย่างต่อเนื่องของนายกฯ ได้ทราบว่าทุกหน่วยงานร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ส่วนแนวโน้มปริมาณฝนมากในช่วงเดือน ธ.ค.-ม.ค.นี้ ในบริเวณพื้นที่ 3 ลุ่มน้ำหลักภาคใต้ ได้แก่ ลุ่มน้ำสงขลา ลุ่มน้ำปัตตานี และลุ่มน้ำตาปี ทางกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ประเมินพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยเป็นรายตำบล และแจ้งเตือนหน่วยงานในระดับพื้นที่เตรียมรับมืออุทกภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว