ส่อง 5 อภิมหาเศรษฐี 'รวย' สวนกระแสโควิด-19
ส่อง 5 อภิมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยขึ้นสวนกระแสโควิด-19 จากการจัดทำดัชนีอภิมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์ก
ปี 2563 เป็นปีที่คนทั่วโลกประสบปัญหาทางการเงิน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 บั่นทอนธุรกิจ แต่ก็มีบางคนที่ร่ำรวยขึ้น ระหว่างปี 2563 ยอดขายอเมซอนพุ่งขึ้น ผลพวงจากข้อจำกัดให้ต้องเว้นระยะห่างบีบให้ประชาชนหันไปชอปปิงออนไลน์กันมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่องของเทสลาส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่ง ส่งผลให้เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งอเมเซอน และอีลอน มัสก์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทผลิตรถไฟฟ้า “เทสลา” มั่งคั่งสุทธิพุ่งขึ้นในปีนี้
ในโอกาสส่งท้ายปีลองย้อนกลับไปดูเรื่องราวของ 5 อภิมหาเศรษฐีที่มั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปีนี้ ตามดัชนีอภิมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์ก
- อีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลา
ปี 2563 มัสก์รวยเพิ่มอีก 1.4 แสนล้านดอลลาร์ ความมั่งคั่งสุทธิเมื่อวันอังคาร (29 ธ.ค.) อยู่ที่ 1.67 แสนล้านดอลลาร์ เดือน พ.ย.มัสก์เคยแซงหน้าบิล เกตส์ คว้าอันดับ 2 ของดัชนีมาแล้ว
เมื่อต้นปี มัสก์มั่งคั่งเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ (ยังถือว่ารวยมาก) แต่ปีนี้เป็นปีพิเศษของเทสลา ทำให้มัสก์รวยหยุดไม่อยู่ หุ้นเทสลาพุ่งกว่า 650% ตั้งแต่ต้นปี จากยอดขายที่สูงทุบสถิติ ทั้งยังทำกำไรได้เป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกัน
มัสก์ถือหุ้นเทสลาราว 20% เมื่อราคาหุ้นบริษัทพุ่งจึงส่งผลให้เขารวยขึ้นด้วย เพราะราคาหุ้นเทสลาส่วนที่เขาถือมูลค่ากว่า 1.25 แสนล้านดอลลาร์แล้ว
ไม่เพียงเท่านั้นเจ้าพ่อเทคโนโลยีรายนี้ยังถือหุ้นในบริษัทอากาศยาน “สเปซเอ็กซ์” (ที่ประสบความสำเร็จในปีนี้เช่นกัน ส่งนักบินไปสู่ห้วงอวกาศได้เป็นครั้งแรก) บริษัทเวลธ์เอ็กซ์ประเมินมูลค่าบริษัทไว้ที่กว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์
- เจฟฟ์ เบซอส ซีอีโออเมซอน
เบซอสเริ่มต้นปี 2563 ด้วยตำแหน่งบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลก แถมยังรวยเพิ่มอีกกว่า 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ผลจากรายได้อเมซอนโตต่อเนื่องในปีนี้ อานิสงส์จากโควิดระบาดหนุนให้การชอปปิงออนไลน์เติบโต
เบซอส ถือครองหุ้นอเมซอนกว่า 50 ล้านหุ้น มูลค่ากว่า 1.7 แสนล้านดอลลาร์ ปีนี้จึงรวยพุ่งเป็น 1.87 แสนล้านดอลลาร์ โดยช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เขาคือคนที่มั่งคั่งที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ เคยรวยทะลุ 2 แสนล้านดอลลาร์จากมูลค่าหุ้นมาแล้ว
- จง ซานซาน ผู้ก่อตั้งหนองฟู่สปริง
ความมั่งคั่งสุทธิของเขาพุ่งขึ้น 6.26 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ ไปอยู่ที่กว่า 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์ จง ซานซาน กลายเป็นผู้มั่งคั่งที่สุดในจีนเมื่อเดือน ก.ย. หลังจากบริษัทผลิตน้ำดื่มบรรจุขวด “หนองฟู่สปริง” ที่เขาก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2539 เปิดขายหุ้นต่อสาธารณครั้งแรก (ไอพีโอ) ประสบความสำเร็จระดมทุนได้กว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ มูลค่าบริษัทรวมเกือบ 7 หมื่นล้านดอลลาร์
จง วัย 66 ปีถือหุ้นบริษัทกว่า 84% ตอนนี้มีมูลค่าราว 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ดันให้เขามั่งคั่งเหนืออภิมหาเศรษฐีจีนคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นโพนี หม่าของเทนเซ็นต์ หรือแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา
นอกจากนี้ จงยังถือหุ้นใหญ่ในบริษัทยา “หวั่นไท่ไบโอโลจิคอล” ที่ปีนี้ราคาหุ้นเคยพุ่งไปเกือบ 2,000% ช่วงที่บริษัทกำลังพัฒนาวัคซีนสเปรย์พ่นจมูกป้องกันโควิด-19
- โคลิน หวง ผู้ก่อตั้งพินตัวตัว
โคลิน หวง วัย 50 ปี รวยเพิ่มอีก 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา ส่งผลมั่งคั่งสุทธิเกือบ 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งๆ ที่เป็นปีที่เขาก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอบริษัทพินตัวตัวที่เขาก่อตั้งขึ้นมาเมื่อ 5 ปีก่อน พินตัวตัวเป็นตลาดออนไลน์จีนที่โตเร็วมาก ก่อตั้งขึ้นในปี 2558
ความโดดเด่นของพินตัวตัวอยู่ที่การกำหนดราคาสินค้าให้ถูกลงได้ถ้ารวบรวมคนที่ตกลงซื้อสินค้าตัวเดียวกันและกดซื้อพร้อม ๆ กัน พินตัวตัวจึงโตเร็วกว่าคู่แข่งอีคอมเมิร์ซจีนรายอื่น เช่น เจดีดอทคอมและอาลีบาบา
เมื่อพินตัวตัวจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2561 หวงก็กลายเป็นอภิมหาเศรษฐี เส้นทางของบริษัทเช่นเดียวกับอเมซอนและยักษ์อีคอมเมิร์ซรายอื่น ๆ ที่ได้ประโยชน์จากการที่ประชาชนหันมาชอปปิงออนไลน์มากขึ้นในปี 2563 เนื่องจากโควิดระบาดทั่วโลก หนุนให้มูลค่าหุ้นพินตัวตัวสูงขึ้นเกือบ 4 เท่านับตั้งแต่ต้นปี
หวงลงจากตำแหน่งซีอีโอพินตัวตัวในเดือน มิ.ย. อ้างว่าต้องการมอบหน้าที่บริหารและความรับผิดชอบให้กับเพื่อนร่วมงานที่ยังหนุ่มสาว เพื่อคงไว้ซึ่ง “จิตวิญญาณผู้ประกอบการ” ในบริษัทที่กำลังเติบโต หวงยังเป็นประธานบริษัทและถือหุ้น 29.4% ในพินตัวตัว ที่มีมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์
- แดน กิลเบิร์ต ประธานบริษัทร็อกเก็ต
แดน กิลเบิร์ต วัย 58 ปี เป็นเจ้าของคลีฟแลนด์แควาเลียส์ ทีมบาสเก็ตบอลในลีกเอ็นบีเอ และร่วมก่อตั้งบริษัทควิกเคนโลนส์ ปี 2563 ร่ำรวยเพิ่มขึ้น 2.81 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลมั่งคั่งสุทธิ 3.53 หมื่นล้านดอลลาร์
สินทรัพย์ที่พอกพูนขึ้นมาจากร็อกเก็ตคัมพะนี บริษัทแม่ของควิกเคนส์ขายหุ้นไอพีโอในเดือน ส.ค. กิลเบิร์ตถือหุ้นในนั้นราว 73% มูลค่ากว่า 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์