หุ้น‘แบงก์’ราคาพุ่งยกแผง หวังกำไรฟื้น-เทรดต่ำบุ๊ค

      ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (7 ม.ค.)ปรับตัวเพิ่มขึ้น 21.42 จุด หรือ 1.44% มูลค่าซื้อขาย 121,326.10 ล้านบาท ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นยกแผง

    นำโดย กสิกรไทย(KBANK) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.00 บาท หรือ 5.15% ถัดมาคือ ธนาคารไทยพาณิชย์ เพิ่มขึ้น 3.75 บาท หรือ 4.29% ตามด้วย ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ปิดตลาดที่ 125 บาทต่อหุ้น บวก 3.00 บาท หรือ 2.46% ขณะที่ทิสโก้(TISCO) ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน ปิดตลาดที่ 91.50บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 2.23% ส่วนธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) เพิ่มขึ้น 2.50บาท หรือ 4.65% ฯลฯ

    ด้านนายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน กล่าวว่า หุ้นกลุ่มแบงก์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นการขึ้นตามบอนด์ยิลด์สหรัฐ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น สะท้อนเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีหลังพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากได้ทั้งสภาสูงและสภาร่าง บวกกับเศรษฐกิจไทยที่ปีนี้มีทิศทางฟื้นตัว ซึ่งส่งบวกต่อกลุ่มแบงก์

    แม้กำไรสุทธิปี 2563 กลุ่มแบงก์คาดลดลง โดยไตรมาส 4 ปี 2563คาด กำไรลดลง 2-5% มาอยู่ 3 หมื่นล้านบาท จากไตรมาสก่อน ที่มีกำไร 4.67 หมื่นล้านบาท ขณะที่ทั้งปีคาดกำไรลดลง 33-34% หรือ1.4แสนล้านบาท จากปีก่อนที่กำไร 2.1แสนล้านบาท แต่คาดว่า ปี 2564 กำไรกลุ่มแบงก์จะกลับมาพลิกบวกได้ 8-10% ส่วนคำแนะนำ แนะนำซื้อ BBL และ TMB

    ขณะที่นายธนภัทร ฉัตรเสถียร ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า การกลับมาบวกของราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ ส่วนหนึ่งมาจาก หุ้นกลุ่มแบงก์รับรู้ปัจจัยลบไปหมดแล้ว ทั้งหนี้เสียและเศรษฐกิจในช่วงก่อนหน้า อีกทั้งหากดู การเทรดของหุ้นกลุ่มแบงก์พบว่า อยู่ที่ 0.5 เท่าของ มูลค่าทางบัญชี (P/BV)เท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำมาก

    ทั้งนี้คาดกลุ่มแบงก์จะจ่ายปันผลเฉลี่ย 4% หากเทียบกับราคาหุ้น โดยคาด BBL จ่ายอยู่ที่ 3.3% KBANK 2.9% KTB 4.5% และ SCB 5.3% TMB 3% และ TISCO 4.7 % แนะนำ ซื้อ BBL และ TISCO

     นายกรกช เสวตร์ครุตมัต ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย กล่าวว่า หุ้นกลุ่มแบงก์ที่บวกวันนี้ ได้อานิสงส์จากฟันด์โฟลว์ที่ไหลเข้ามาลงทุน เพราะมองว่าผลกระทบจากโควิด-19 รอบใหม่ จะไม่รุนแรงเท่ารอบแรก ซึ่งหากดู P/BVกลุ่มแบงก์ ต่ำเพียง 0.6เท่า จากก่อนโควิด-19 ที่อยู่ 0.8 เท่า ดังนั้นยังมีโอกาสปรับขึ้นอีก 10%ในการหาผลตอบแทนได้

      ส่วนผลการดำเนินงานปี 2563 ไม่รวม KBANK คาดทั้งปีลดลง 33% หรือ 1.07 แสนล้านบาท ส่วนปันผลคาดเฉลี่ยอยู่ที่ราว 3.5% โดยคาด KKP จ่ายปันผลสูงสุดที่ 5.6% เนื่องจาก P/BVต่ำ 1% หากเทียบกับศักยภาพจ่ายปันผลในระดับสูง