'วราวุธ' ดันกฎหมายลำดับรอง กว่า 13 ฉบับ รักษาทะเลไทย
รมว.ทส. “วราวุธ” ดันกฎหมายลำดับรองกว่า 13 ฉบับรักษาทะเลไทย ด้าน “รองฯประวิตร” ให้เร่งประกาศก่อนทรัพยากรเสียหาย
การบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกลายเป็นกระแสที่สังคมต่างให้ความสำคัญและมีส่วนร่วมในการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งก็ยังจำเป็นต้องได้รับการกำกับและป้องกันโดยมาตรการทางกฎหมาย ซึ่งนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เผยถึงการเตรียมการประกาศใช้กฎหมายในการควบคุม กำกับ และป้องกันทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จำนวน 13 ฉบับ ภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558
ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติแล้ว อีกทั้ง พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ ดังกล่าว ได้กำชับให้เร่งประกาศใช้ก่อนทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจะเสียหาย ทั้งนี้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อยู่ระหว่างเสนอพิจารณาตามขั้นตอน ก่อนประกาศบังคับใช้ ต่อไป
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยเรื่องนี้ที่กระทรวง ทส. โดยกล่าวว่า หลักการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ คือ การสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เนื่องจาก ทรัพยากรธรรมชาติถือเป็นสมบัติของเราทุกคน นอกจากนี้ เครื่องมืออีกตัวหนึ่งที่เราต้องใช้เพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน อยู่ภายใต้ข้อกำหนดเดียวกัน มีความยุติธรรมและเท่าเทียม
นั่นคือ การใช้มาตรการทางกฎหมาย สำหรับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งก็เช่นกัน ตนได้พยายามส่งเสริมการมีส่วนร่วมควบคู่กับการผลักดันการบังคับใช้กฎหมายเพื่อกำกับควบคุมการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการประกาศใช้กฎหมายลำดับรองภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 ไปแล้ว 29 ฉบับ
และเตรียมประกาศเพิ่มอีก 13 ฉบับ ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว ซึ่งพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ ดังกล่าว ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดผลักดันตามขั้นตอน เพื่อประกาศบังคับใช้กฎหมายลำดับรองทุกฉบับ ก่อนที่ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจะเสียหายและไม่สามารถฟื้นคืนได้ และให้เร่งสำรวจทุกทรัพยากร หากจำเป็นต้องใช้กฎหมายในการกำกับ ควบคุม ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการโดยด่วน ต่อไป
ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวเสริมว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ยกร่างกฎหมายลำดับรอง จำนวน 13 ฉบับ โดยทุกฉบับได้ผ่านการกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยกฎหมายลำดับรองทั้ง 13 ฉบับ ประกอบด้วย การประกาศพื้นที่คุ้มครองทางทะเลและอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จำนวน 6 ฉบับ
การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน จำนวน 4 ฉบับ การป้องกันปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง จำนวน 3 ฉบับ ซึ่งบางฉบับได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้วและเตรียมการประกาศ และบางฉบับอยู่ในกระบวนการเสนอตามขั้นตอน ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะได้เร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกาศบังคับใช้กฎหมายลำดับรองทุกฉบับ ต่อไป
นอกจากนี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้กรมฯ เสนอแผนการศึกษาและสำรวจในพื้นที่ เพื่อเตรียมการจัดทำร่างกฎหมายเพื่อคุ้มครองทรัพยากรและพื้นที่ที่มีความสำคัญเร่งด่วน รวมทั้ง ให้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ภาคประชาชนและผู้มีส่วนส่วนเสีย ให้เข้ามามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งและให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน นายโสภณ ทองดี กล่าวในที่สุด