ความหวังสุดท้าย 'วัคซีนโควิด'
"วัคซีนโควิด" ความหวังเศรษฐกิจไทย ปี 2563 ไทยต้องเผชิญกับจีดีพีในระดับ ติดลบ 6.1% ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 22 ปี นับจากวิกฤติต้มยำกุ้ง ที่ผ่านมาการเบิกจ่ายการลงทุนภาครัฐเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่กระตุ้นเศรษฐกิจ ทดแทนภาคการท่องเที่ยวและส่งออกที่ยังเผชิญวิกฤติ
การระบาดของโรคโควิด-19 ที่นำมาสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจรุนแรง เป็นผลกระทบที่รุนแรงไม่แพ้วิกฤติต้มยำกุ้ง รวมทั้งรุนแรงกว่าวิกฤติซับไพร์ม สะท้อนได้จากการประกาศภาวะเศรษฐกิจปี 2563 ซึ่งสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานว่าจีดีพีของปีที่แล้วติดลบ 6.1% เป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 22 ปี นับจากวิกฤติต้มยำกุ้ง ถือเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่ต้องบันทึกไว้ถือวิกฤติครั้งใหญ่ที่ทั่วโลกได้รับผลกระทบ
ผลกระทบโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยอยู่ระดับต่ำสุดในไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 ซึ่งจีดีพีติดลบถึง 12.2% และหลังจากนั้นเศรษฐกิจไทยเริ่มขยายตัวดีขึ้น โดยในไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว จีดีพีติดลบ 6.4% โดยมีแรงขับเคลื่อนพระเอกจากการเบิกจ่ายการลงทุนภาครัฐที่ทำได้ดีและแทบจะเป็นเครื่องจักรเดียวที่เร่งเครื่องได้ในขณะนั้น รวมถึงมาตรการคลายล็อกดาวน์ที่ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักไปในช่วงครึ่งแรกของปีกลับมาเปิดดำเนินการได้จึงช่วยต่ออายุให้กับหลายธุรกิจได้
ในขณะที่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2563 มาจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคที่ออกมาต่อเนื่องในช่วงปลายปีนับตั้งแต่มาตรการ “คนละครึ่ง” ที่สร้างแรงจูงใจในการจับจ่ายใช้สอยได้อย่างดี รวมถึงมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ที่กระตุ้นให้กลุ่มที่มีรายได้และเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาควักเงินจากกระเป๋ามาซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น แต่การบริโภคที่สูงขึ้นต้องแลกมาด้วยการใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมากอัดเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ารัฐบาลไม่มีกำลังที่จะทำเช่นนี้ได้ต่อเนื่อง
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงไม่แปลกใจที่ สศช.มีข้อเสนอให้มีการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มบุคลากรธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งเป็นข้อเสนอที่รัฐบาลควรรับฟังเนื่องจากรัฐบาลมีข้อจำกัดด้านงบประมาณที่มีจำกัด ถึงแม้ว่างบประมาณจาก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 จะมีวงเงินเหลืออยู่หลายแสนล้านบาท แต่ที่ผ่านมาเห็นชัดเจนแล้วว่าการระบาดรอบใหม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ
ส่วนแรงขับเคลื่อนจากเครื่องจักรการส่งออกมีความเป็นไปที่อัตราการขยายตัวในปีนี้จะอยู่ที่ 4% แต่การส่งออกไม่สามารถเพิ่มแรงขับเคลื่อนต่อเศรษฐกิจได้มากไปกว่านี้ ซึ่งทำให้การท่องเที่ยวที่ยังพอมีความหวังจากการกระจายวัคซีนเพื่อจำกัดวงการแพร่ระบาดของเชื้อ จะทำให้สร้างความเชื่อมั่นให้กับการท่องเที่ยวและทำให้การเดินทางท่องเที่ยวมีโอกาสเพิ่มมากขึ้น เพราะถ้ารัฐบาลปล่อยให้สถานการณ์ไหลไปแบบไม่มียุทธศาสตร์การควบคุมการระบาดและยุทธศาสตร์เศรษฐกิจย่อมทำให้ประเทศไทยจมในวิกฤตินานขึ้น