"นายกฯ" ยก3อันดับไทยดีสุด ในสายตาต่างชาติ พร้อมบอก ภูมิใจในประเทศไทย

"นายกฯ" ยก3อันดับไทยดีสุด ในสายตาต่างชาติ พร้อมบอก ภูมิใจในประเทศไทย

เพื่อไทย สลับอภิปรายไม่ไว้วางใจ "นายกฯ" ต่อเนื่อง ยกให้เป็น "ลุงตู่บ้านกลับกลอก" ด้าน "นายกฯ" แจงต่างชาติมองไทย ติดท็อป3เรื่อง ระบุภูมิใจในประเทศไทย

       ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอภิปรายทั่วไปโดยลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ในวันแรกที่ฝ่ายค้าน วางเนื้อหาอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม 
       ช่วงหัวค่ำ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน อภิปรายชี้ให้เห็นพฤติกรรมของพล.อ.ประยุทธ์ที่ไม่เหมาะจะดำรงตำแหน่งผู้บริหารประเทศ  โดย นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า หากสังเกต ตลอด 10 ปีที่ผานมาเรามีบุคคลที่มีชื่อเสียงที่นำหน้าด้วยคำว่า “ลุง” อยู่ไม่กี่คน ปี 57 เรามีลุงกำนัน ที่ออกมาเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศ แต่จะปฏิรูปหรือไม่ไม่รู้ เพราะวันนี้เห็นทำกฎหมายปฏิรูปไป 50 ฉบับยังไม่ห็นการปฏิรูปตามเป้าหมายที่ลุงกำนันเรียกร้องไว้ พอมาปีสองปีนี้มีลุงอีกคนชื่อ ลุงพลแห่งบ้านกกกอก มีเรื่องคดีน้องชมพู่ ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ไปไหน แต่ก็ไม่ติดชาร์ทที่ติดมาตั้งแต่ปี 57 อย่าง ลุงตู่แห่งบ้านกลับกลอก คนนี้ติดชาร์ทมายาวเลย ตั้งแต่ 22 พฤษภาคม 57 กลับไป กลับมา กลับไป กลับมา ร้ายที่สุด คือวันที่ 27 ตุลาคม 63 มายืนพูดตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าเรื่องรัฐธรรมนูญให้รีบทำ เพราะเป็นนโยบายของท่าน พอมาวันนี้พิสูจน์ให้เห็นในสภาแห่งนี้ว่าเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ตั้งแต่ปี 62 มาจนปี 63 ขอไปศึกษาๆๆ ทั้งนี้ ตนขอบคุณส.สงพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยกมือเพื่ออยากเห็นแสงว่างของบ้านเมืองที่อยากให้เดินไปข้างหน้าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย แต่ปรากฎว่าดดนหักกันเองกลางสภา หักเพื่อผลประโยชน์ในการครองตำแหน่งในอนาคต
       ทั้งนี้ก่อนหน้านั้น พล.อ.ประยุทธ์  ชี้แจงต่อข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลล้มเหลวต่อการบริหารประเทศ ตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยในสายตาโลก พบว่า อันดับที่ 1 เป็นประเทศที่ดีที่สุดสำหรับการเริ่มต้นในปี 2563 อันดับที่ 2 ประเทศที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุน 2020 และเป็นอันดับที่ 1 ประเทศที่ทุกข์ทรมานน้อยที่สุด ทั้งนี้ตนมีมีความรักความภาคภูมิใจในประเทศไทย  
       พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนคำถามที่ว่าทำไมการบริหารประเทศของพลเอกประยุทธ์จึงมีเงินค้างท่อจำนวนมาก ขอชี้แจงว่ารัฐบาลก่อนหน้าตนคงทราบดีว่าเป็นรัฐบาลใคร รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ 1 ตั้งแต่ปี 2558 เบิกจ่ายได้ 95% และในปี 2559 เบิกจ่ายได้ 95% ปี 2560 เบิกจ่ายได้ 96 เปอร์เซ็นต์ ปี 2561 ได้ 95 เปอร์เซ็นต์ ส่วนปี 2562 รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ 2 เบิกจ่ายได้ 97.61% ส่วนปี 2563 เบิกจ่ายได้ 60.71 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ได้มีการเพิ่มการจัดทำประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณ ผลการใช้จ่ายมีปริมาณสูงขึ้นแสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณ สาเหตุการเบิกจ่ายล่าช้าเป็นมานานแล้วเกิดจากปัญหาความพร้อมของพื้นที่กรรมสิทธิ์ที่ดิน ราคาที่ดินขาดการบูรณาการในระดับพื้นที่ ทำให้เกิดการซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น จึงต้องมีการปรับเป้าหมายเปลี่ยนแปลงรายการและยกเลิกรายการ. 
161348371626