จับแก๊งแฮค IG หลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนม เสียหายหลายสิบล้านบาท
จับแก๊งแฮค IG หลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนม เสียหายหลายสิบล้านบาท
วันนี้ (17 กุมภาพันธ์ 2564) เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ PCT พร้อมด้วยพล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รองผบช.น.
พล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา รองผบช.สทส. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม 2 คดีสำคัญ ผู้ต้องหาแฮคอินสตาแกรม หลอกหลวงขายของแบรนด์เนม พบผู้เสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า คดีแรก จับกุมผู้ต้องหา 2 คน คือ นายชัยวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี และ นายพายุพัศ หรือ เปรี้ยว (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการท่ีน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน โดยจับกุมนายชัยวัฒน์ ได้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง พระรามที่ 2 ซอย 56 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ส่วนนายพายุทัศ จับกุมได้ที่ ม.11 ต.โหรา อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด
สำหรับคดีนี้ผู้ต้องหาจะสุ่มแฮคบัญชีเฟซบุ๊ก อินสตราแกรม หรือไลน์ โดยจะเลือกบัญชีที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก และมีการโพสต์ขายกระเป๋าแบรนด์เนมมาก่อน จากนั้นจะเริ่มแฮคใน 2 วิธี คือ "นำหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าของบัญชีที่มีการโพสต์ไว้ มาใส่เป็นรหัสผ่าน ถ้าตรงก็สามารถแฮคได้ หรืออีกวิธี โดยการกด ลืมรหัสผ่าน forger password ระบบจะส่งรหัส OTP เข้าไปที่หมายเลขของเจ้าของบัญชี จากนั้นผู้ต้องหาก็จะสร้างไลน์ปลอมเป็นเพื่อน เข้าไปทักและหลอกให้ผู้เสียหายส่ง OTP ให้
เมื่อแฮคได้แล้ว ก็จะทำบัญชีมาโพสต์หลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง มีผู้เสียหายจำนวนมากหลงเชื่อ โอนเงินให้แต่กลับไม่ได้กระเป๋า มีผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความแล้ว 17 ราย เป็นโรงพักในนครบาล 12 คดี และโรงพักในต่างจังหวัดอีก 5 คดี ผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยนายชัยวัฒน์ เป็นผู้แฮคอินสตราแกรมชื่อ “tongjai.md”
จากนั้นได้ให้ นายพายุทัศ ใช้บัญชีดังกล่าวโพสต์หลอกขายกระเป๋าแบนด์เนมให้กับผู้เสียหาย นอกจากนี้นายพายุทัศ ยังเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจPCT จับกุมมาแล้ว 2 ครั้ง ในพื้นที่สน.บางซื่อ และ สน.มีนบุรี ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน, ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น หลังได้ปลอมเฟซบุ๊กขึ้นมา เพื่อโพสต์ขายหน้ากากอนามัย หอบเงินหนีไม่ส่งหน้ากากให้ลูกค้า มูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างประกันตัวในชั้นศาล ออกมากระทำความผิดซ้ำอีก
อีกคดีตำรวจได้จับกุมตัว น.ส.กุลธิดาลักษณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ในความผิดฐาน "ร่วมกันโดยทุจริตหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือโดยหลอกลวง, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" โดยจับกุมตัวได้ย่านแขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
คดีนี้น.ส.กุลธิดาลักษณ์ ได้ประกาศขายสินค้าแบรนด์เนมมือสอง ในเฟซบุ๊กชื่อ "Celebrity Brandname กระเป๋าแบรนด์เนมแท้มือ 2 ของแท้ 100% รับซื้อ ฝากขาย จำนำ" ภายหลังมีผู้สนใจเป็นจำนวนมากโอนเงินซื้อสินค้า แต่สุดท้ายกลับไม่ได้รับสินค้า ซึ่งน่าเชื่อว่าสินค้าไม่ได้มีอยู่จริงตั้งแต่ต้น ผู้ต้องหากระทำผิดต่อเนื่องหลายคดี จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งสองคดี มีพฤติการณ์คล้าย ๆ กัน คือมีการหลอกลวงขายสินค้าทางโซเชียลมีเดีย มีผู้เสียหายจำนวนมาก ทั้งที่แจ้งความแล้วและยังไม่ได้เข้าแจ้งความ มูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท จึงขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนเรื่องการใส่ข้อมูลส่วนตัว ลงในโซเชียล ตรงนี้เป็นดาบสองคม ด้านหนึ่งเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือในการขายสินค้าออนไลน์ แต่ก็เป็นช่องทางให้มิจฉาชีพนำข้อมูล เบอร์มือถือ วันเดือนปีเกิด ใช้เป็นข้อมูลในการแฮกบัญชี ส่วนการโอนเงินชำระค่าสินค้าทุกครั้งขอให้ตรวจชื่อบัญชีทุกครั้งว่าตรงกับผู้ที่เราต้องการโอนเงินให้
พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวว่า การปราบปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นนโยบายสำคัญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งศูนย์ PCT ตร. ให้ความสำคัญทั้งในด้านการปราบปราม และการสร้างภูมิกันให้กับประชาชนโดยการผลิตคลิป เตือนภัย เช่น คลิป "รู้ทัน แชร์ลูกโซ่", "รู้ลึก พนันออนไลน์ ภัยใกล้ตัว กับติ๊ก บิ๊กบราเธอร์", "ลงทุนแค่ 100 ได้เงินเป็น 1,000,000" , "3 กระบวนยุทธ์ สกัดหยุด การโจรกรรมข้อมูลออนไลน์" และ ล่าสุดคลิป "ภัยใกล้ตัว ระวัง เงินหายหมดบัญชี" ซึ่งเป็นการเตือนภัยจากการหลอกขอ OTP
โดยสามารถเข้าไปดูได้ที่เพจเฟซบุ๊กและยูทูป @PCTPOLICE และจะมีการผลิตคลิปเตือนภัยทุกเดือน เพื่อให้ทันต่อรูปแบบของอาชญากรรมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หากพบพฤติการณ์ดังกล่าวสามารถโทรแจ้งเบาะแสมาที่สายด่วน ตร. 1599 ตลอด 24 ชม. หรือสายตรง ศูนย์ PCT 081-8663000 เฉพาะเวลาราชการ
ภายหลังการแถลงข่าว พญ.ชิตพัณน์ ปรีชาทรัพย์ แพทย์เสริมความงาม ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายแฮคไอจีไปหลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนม ได้นำกระเช้าดอกไม้มามอบขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว พร้อมฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังให้ดีในการให้รหัสOTP กับบุคคลอื่น