'โควิด19' เพิ่ม 297 ราย 'คลัสเตอร์ศูนย์กัก'

'โควิด19' เพิ่ม 297 ราย 'คลัสเตอร์ศูนย์กัก'

สธ.เผย “โควิด19” “คลัสเตอร์ศูนย์กัก”พบเพิ่ม 297 ราย เร่งตั้งรพ.สนามในสโมสรตำรวจรองรับผู้ต้องกักติดเชื้อ  ขณะที่ฉีดวัคซีนโควิด19แล้วกว่า 7 หมื่นโดส


          เวลา 11.30 น.วันที่ 22 มี.ค.2564  ที่ทำเนียบรัฐบาล  ในการแถลงสถานการณ์โควิด19 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ “โควิด19”(ศบค.) กล่าวว่า มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 73 ราย  พบจากระบบบริการ 22 รายในจ. กรุงเทพฯ 8 ราย สมุทรสาคร 8 ราย นครปฐม 1 ราย ปทุมธานี 1 ราย นนทบุรี 1ราย สมุทรปราการ 1 ราย ชลบุรี 1 ราย ราชบุรี 1 ราย การค้นเชิงรุกในชุมชน 44 รายในจ.สมุทรสาคร 25 ราย กรุงเทพฯ13 ราย ปทุมธานี 5 ราย เพชรบุรี 1 ราย  และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 7 ราย เสียชีวิต 1 คน ผู้ติดเชื้อสะสม 27,876 ราย เสียชีวิตสะสม 91 คน เฉพาะระลอกใหม่  ผู้ติดเชื้อสะสม 23,639 ราย เสียชีวิตสะสม 31 คน
        ผู้เสียชีวิตรายใหม่ เป็นชายไทย อายุ 60 ปี อาชีพพนักงานบริษัท  มีประจำตัวโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ประวัติอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ โดยเมื่อวันที่ 14 มี.ค.2564 เข้ารับการตรวจคัดกรองเชิงรุก วันที่ 15 มี.ค.2564 ช่วงเย็นมีอาการหายใจเหนื่อย ไปเข้ารับการรักษาที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในกทม. ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ แพทยฺวินิจฉัยเป็นผู้ป่วยปอดอักเสบรุนแรงและผลพบติดโควิด19 และเข้าห้องแยก จากนั้นวันที่ 18 มี.ค.2564 มีภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน และทำการดู้ชีกและเสียชีวิตในเวลาต่อมา 
ผลการค้นหาเชิงรุกกทม.
     พญ.อภิสมัย กล่าวด้วยว่า การค้นหาเชิงรุกสะสมในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะใน 6 เขตที่อยุ่ใกล้กับจ.สมุทรสาคร ค้นหาในโรงงาน 128 แห่ง แรงงานจำนวน 21
,458 ราย พบติดเชื้อ  77 ราย อัตรการติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุก 0.36ส่วนในพื้นที่อื่นๆ แยกเป็น กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง ค้นหา 4,652 ราย ไม่พบติดเชื้อ  กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ ค้นหา 9,185 ราย พบติดเชื้อ 7 ราย กลุ่มเขตกรุงธนใต้ ค้นหา 38,625 ราย พบติดเชื้อ 438 ราย กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ ค้นหา 8,460 ราย พบติดเชื้อ 6 ราย กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก ค้นหา 14,301 ราย พบติดเชื้อ 2 ราย และกลุ่มเขตกรุงเทพใต้ ค้นหา 8,063 ราย พบติดเชื้อ 1 ราย

 คลัสเตอร์ศูนย์กักพบเพิ่ม 297 ราย

     เวลา 15.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข  ในการแถลงสถานการณ์โควิด-19
นพ.เฉวตสรร นามวาท  รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรณีที่ศูนย์กักบางเขนและสวนพลู สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ผ่านมามีการรายงานพบผู้ติดเชื้อไปบ้างแล้ว โดยเริ่มพบผู้ต้องกักติดเชื้อเมื่อวันที่ 11 มี.ค.2564 ที่ศูนย์กักสวนพลู 1 ราย ศูนย์กักบางเขน 8 ราย วันที่ 13 มี.ค.พบที่ศูนย์กักบางเขนอีก 52 ราย วันที่ 15 มี.ค. เจอที่ศูนย์กักสวนพลู 16 ราย รวม 77 ราย   จากนั้นมีการค้นหาเชิงรุกในผู้ต้องกักและเจ้าหน้าที่ทุกคน วันที่ 18 มี.ค. 501 ราย พบติดเชื้อ 19 ราย วันที่  19 มี.ค. 549 ราย พบติดเชื้อ 2 ราย และวันที่ 20 มี.ค. 506 ราย พบติดเชื้อ 297 ราย  รวมการค้นหาเชิงรุก18-20 มี.ค.2564 ค้นหา 1,556 ราย พบติดเชื้อรวม 318 ราย คิดเป็นอัตราติดเชื้อ 20.43 % ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อที่ตรวจเจอวันที่ 20 มี.ค.จำนวน 297 ราย ยังไม่ได้เข้าระบบตัวเลขของศบค.

        “ระบบการดูแลผู้ต้องกักเป็นพื้นที่เฉพาะ ไมได้มีการออกไปสู่ชุมชนใดๆ และการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และมีความเสี่ยงในการนำโรค มีความเสี่ยงด้านสุขภาพที่จะมาแพร่โรคให้คนอื่นๆ เพราะฉะนั้นทุกคนเป็นหูเป็นตาดูไม่ให้ลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย จะช่วยในการป้องกันโรคด้วย”นพ.เฉวตสรร กล่าว 

ตั้งรพ.สนามดูแลผู้ต้องกักติดเชื้อ   
     นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า การป้องกันควบคุมโรคเพิ่มเติม 1.มีการแยกผู้ต้องกักที่ติดเชื้อ ออกจากผู้สัมผัส งดการเคลื่อนย้ายผู้ต้องกักระหว่างห้อง 2.งดรับผู้ต้องกักใหม่ ในสมต.สวนพลูและบางเขน 3.ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ร่วจัดตั้งรพ.สนามในพื้นที่สมโมสรตำรวจ ขขณะนี้เตรียมพื้อนที่ไว้สำหรับผู้ป่วยประมาณ  120 คน สามารถขยายได้ถึง 250 คน 4.เร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19ให้เจ้าหน้าที่ที่มีความเสี่ยงสัมผัสกับผู้ต้องกัก ขณะนี้ดำเนินการไปแล้วมากกว่า 70 ราย และ5.กรมควบคุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการควบคุมและป้องกันโรค และมีแผนเข้าตรวจผู้ต้องกักซ้ำอีกใน 7 วันและ 14 วันต่อไป

 ฉีดวัคซีนแล้ว 7 หมื่นโดส
      นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า ตัวเลขการฉีดวัคซีนไปแล้ว 73,517 โดส คิดเป็น 79% หลายๆ จังหวัดการฉีดวัคซีนมีความก้าวหน้าได้ดีตามลำดับ หลายจังหวัดฉีดได้ครบ 100% ส่วนที่ กทม.กำลังเร่งมือฉีด ขณะนี้ฉีดได้ 28% แล้ว