สศค. เผยดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค เดือนมี.ค.64 ปรับตัวดีขึ้น
สศค. เผยดัชนี RSI เดือนมี.ค.64 ชี้แนวโน้มความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าในทุกภูมิภาค เนื่องจากคาดการณ์ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่มีแนวโน้มคลี่คลายลง
นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง และนายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนมีนาคม 2564 จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค พบว่า
“ดัชนี RSI เดือนมีนาคม 2564 ชี้แนวโน้มความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าในทุกภูมิภาค เนื่องจากคาดการณ์ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019: COVID-19) ระลอกใหม่มีแนวโน้มคลี่คลายลง”
- ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตกอยู่ที่ 67.9
สะท้อนถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคบริการ เนื่องจากคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะคลี่คลายลง ทำให้มีความต้องการสินค้าเกษตรเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับภาครัฐมีนโยบายสนับสนุน ภาคเกษตรและกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
- ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้อยู่ที่ระดับ 65.3
แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มดีขึ้น จากการฉีดวัคซีนในหลายประเทศ ส่งผลให้ความต้องการใช้ยางพาราในการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาลในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ
- ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคตะวันออกอยู่ที่ระดับ 63.4
แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากยังมีคำสั่งซื้อต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในปัจจุบันที่เริ่มคลี่คลาย นอกจากนี้ ภาครัฐยังมีนโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง
- ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ระดับ 62.5
แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคการลงทุนและภาคบริการ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มคลี่คลาย ประกอบกับรัฐบาลมีมาตรการต่างๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
- ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคกลางอยู่ที่ 61.0
แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากคาดว่าการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะลดลง ส่งผลให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวและมีคำสั่งซื้อมากขึ้น ประกอบกับมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐช่วยสนับสนุน
- ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคเหนืออยู่ที่ระดับ 60.7
สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและภาคการลงทุน เนื่องจากภาครัฐมีมาตรการช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมด้านเงินทุนและการพัฒนาการผลิต ซึ่งช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ประกอบกับเชื่อว่าแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น
- ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของ กทม. และปริมณฑลอยู่ที่ระดับ 52.6
แสดงถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น และคาดว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคบริการ เนื่องจากมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐจากโครงการต่างๆ