“จุรินทร์ “มอบถุงยังชีพช่วยประชาชนจากผลกระทบโควิด ขออย่ามองหาเสียงล่วงหน้า

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ชุมชนวัดดวงแข เขตปทุมวัน เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19  ว่า ขณะนี้มีหลายคนสอบถามว่า โครงการ รถโมบาย( Mobile) พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน ที่จะตระเวนไปจอดใน 500 ชุมชนทั่วประเทศและปริมณฑล จะไปจอดรถที่ไหน ซึ่งทางกระทรวงได้ทำแอพพลิเคชั่น ไลน์ โครงการ รถ Mobile พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน  โดยประชาชนสามารถโดยใช้ Application line  line โดย search คำว่า @mobilepanich ซึ่งจะมีรายละเอียดบอกว่าวันไหนรถ Mobile จะไปให้บริการที่ชุมชนไหน

ส่วนเรื่องการดูแลราคาสินค้า พาณิชย์จังหวัดมีการทำรายงานเข้ามาทุกวัน จังหวัดไหนมีการฉวยโอกาสจะดำเนินคดี โดยช่วงเวลานี้ยังมีบ้างแต่ยังไม่มาก ขอให้ผู้พบเห็นกรุณาช่วยแจ้งข้อมูล โดยแจ้งข้อมูลมาที่สายด่วน 1569 จะส่งให้พื้นที่ดำเนินการตรวจสอบ หากพบการกระทำความผิดจริงจะดำเนินคดี  ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่ไม่ควรซ้ำเติมผู้บริโภคในสถานการณ์นี้แต่ก็เห็นใจผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้า ถ้าขายตามหลักตรงไปตรงมาก็พอมีกำไรอยู่บ้าง แม้จะขายได้น้อยลง ซึ่งรัฐบาลพยายามจะออกมาตรการช่วยเหลืออยู่เยอะ

รวมทั้งร้านอาหารที่ตนได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์และได้เชิญนายกสมาคมภัตตาคารไทยมาคุย เพื่อหาหนทางช่วยเหลือในมาตรการต่างๆ นอกจากหน้าที่ของกระทรวงอื่นๆที่เกี่ยวข้องกระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปอีกทางหนึ่ง เช่น ร้านอาหารที่ขายผ่านแพลตฟอร์มต่างๆในระบบออนไลน์  ได้พูดคุยกับเจ้าของแพลตฟอร์มแล้วทั้ง LINEMAN Grab foodpanda เป็นต้น ห้ามขึ้นราคาค่าค่าคอมมิชชันหรือค่าGP (Gross Profit) และค่าขนส่งเป็นอันขาด

นายจุรินทร์ ยังกล่าวว่า  การมอบถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนในครั้งก็หวั่นว่าจะถูกกล่าวหาเป็นการหาเสียงล่วงหน้า แต่ตนมองว่า เป็นเรื่องของการช่วยกันคนละไม้ละมือมากกว่าและไม่อยากให้รังเกียจพรรคการเมือง เพราะในระบอบประชาธิปไตยพรรคการเมืองคือกลไกหลักสำคัญในการที่จะทำให้ประชาธิปไตยสามารถยืนอยู่ได้หรือไม่ได้ ดังนั้นการพรรคการเมืองไม่ว่าจะพรรคไหนก็ตาม เข้ามาช่วยเหลือประชาชนในยามที่เดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ควรให้การสนับสนุน  ไม่เฉพาะประชาธิปัตย์ยื่นมือมาช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนจากสถานการณ์โควิด ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่ควรแก่การสนับสนุน ไม่อยากให้ไปมองในแง่ลบ อยากให้มองในแง่บวก เพราะสุดท้ายคนได้ประโยชน์คือประชาชน และผู้ประสบภัยโควิด

สำหรับถุงยังชีพที่มอบให้กับประชาชน ประกอบด้วยข้าวสาร 5 กก. จำนวน 150 ถุง จากสมาคมผู้ส่งออกข้าว ปลากระป๋อง จำนวน 1,800 กระป๋อง จากสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย หน้ากากอนามัย 300 แพ็ค จาก มูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ฯ ไข่ไก่ แพ็คละ 10 ฟอง จำนวน 150 แพ็ค จากบริษัทเกษมชัยฟู้ด จำกัด นอกจากนี้ยังได้มอบข้าวกล่องพร้อมรับประทาน จากโครงการ “ข้าวกล่อง ดีลิเวอรี่ 40,000 กล่อง ส่งตรงถึงบ้าน” ของมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยโควิด-19 ด้วย