เปิด 10 อันดับ บจ. ‘ปันผล’สูงสุดในตลาดหุ้นไทย
เปิด 10 อันดับ บจ. ‘ปันผล’สูงสุดในตลาดหุ้นไทย นำโดย LPN อยู่ที่ 28% รองมา FNS อยู่ที่ 14.84% โบรกคาด STGT ปันผลมาแรงสุดในปีนี้ที่ 13.90% แนะสกัดหาอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 4% ชี้กลุ่มกองอสังหาริมทรัพย์ รีท กองโครงสร้างพื้นฐานมาแรง
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและ เศรษฐกิจไทยติดลบอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปี 2563 ปรับตัวลงเกือบ50%จากปี 2562 จึงทำให้บจ.มีการการจ่ายปันผลลดลง แต่ก็มีหลายบริษัทที่มีการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่ดี
ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) สรุปภาพรวมอัตราเงินปันผลตอบแทน Market Dividend Yield) ของตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET) เทียบกับตลาดในภูมิภาค ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 อัตราเงินปันผลตอบแทนของ SET อยู่ที่ 2.42% และ mai อยู่ที่ 1.85% โดยอัตราเงินปันผลตอบแทนของตลาดหลักทรัพย์ไทยที่ระดับ 2.42% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 2.30%
ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลบริษัทที่มีการจ่ายปันผล โดยมีอัตราเงินปันผลตอบแทน (ดิวิเดนยิลด์) สูงสุด10 อันดับในตลาดหุ้นไทย (ทั้ง SET และ mai) ข้อมูลจากเว็บไซด์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ 2 มิ.ย. 2564 ดังนี้
1. บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือLPN อัตราจ่ายปันผลตอบแทน 28%
2. บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) หรือ FNS อัตราจ่ายปันผลตอบแทน14.84%
3. บริษัท มัลติแบกซ์ จำกัด (มหาชน)หรือ MBAX อัตราจ่ายปันผลตอบแทน 14.19%
4. บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO อัตราจ่ายปันผลตอบแทน14.02%
5. บริษัท ยูเนี่ยนไพโอเนียร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UPF อัตราจ่ายปันผลตอบแทน13.23%
6. บริษัท นำสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ NSI อัตราจ่ายปันผลตอบแทน12.17%
7. บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE อัตราจ่ายปันผลตอบแทน11.40%
8. กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF อัตราจ่ายปันผลตอบแทน10.21 %
9. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอไอเอ็ม คอมเมอร์เชียล โกรท หรือAIMCG อัตราจ่ายปันผลตอบแทน 10.08%
10. บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPCO อัตราจ่ายปันผลตอบแทน 9.89%
สำหรับวิธีการคำนวณ อัตราการจ่ายปันผลตอบแทนคือ เงินปันผล (ตามที่ประกาศล่าสุดในตลาดหลักทรัพย์ฯ) หารด้วยราคาปิดตลาดล่าสุด คูณ100
ถ้าปี 2564 จ่ายเท่ากับปี25663 ณ ราคาปิดตลาด 2 มิ.ย 2564 เช่น LPN มีเงินปันผลทั้งปี2563 เท่ากับ 0.14 บาทต่อหุ้นและราคาปิด ณ 2 มิ.ย.2564 เท่ากับ 5 บาทต่อหุ้น ดิวิเดนยิลด์อยู่ที่ 28%
FNS มีเงินปันผลทั้งปี 2563 เท่ากับ 0.65 บาทต่อหุ้น และราคาปิด ณ 2 มิ.ย.2564 เท่ากับ 4.38 บาทต่อหุ้น ดิวิเดนยิลด์อยู่ที่ 14.84%
MBAX เงินปันผลทั้งปี2563 เท่ากับ 0.88 บาทต่อหุ้น และราคาปิด ณ 2 มิ.ย.2564 เท่ากับ 6.20บาทต่อหุ้น ดิวิเดนยิลด์อยู่ที่ 14.19%
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์(บล.) กสิกรไทย คาดการณ์ 10หุ้น อัตราเงินปันผลตอบแทนสูงสุด ปี 2564 ดังนี้
1. บริษัท ศรีตรังโกลฟล์ (ประเภศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT คาดอัตราเงินปันผลตอบแทน ปี2564 อยู่ที่ 13.90% เพิ่มขึ้นจากปี2563 อยู่ที่ 6.90% ซื้อ 66.00 บาท
2. บริษัท ตรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA คาดอัตราเงินปันผลตอบแทน ปี2564 อยู่ที่ 12.30% เพิ่มขึ้นจากปี2563 อยู่ที่ 8.50% ซื้อ 55.00 บาท
3. บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP คาดอัตราเงินปันผลตอบแทน ปี2564 อยู่ที่ 10.30% เพิ่มขึ้นจากปี2563 อยู่ที่ 9.10% ถือ 4.62 บาท
4. กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า อมตะ บีกรีม เพาเวอร์ ABPIF คาดอัตราเงินปันผลตอบแทน ปี2564 อยู่ที่ 9.90% เพิ่มขึ้นจากปี2563 อยู่ที่ 7.70% ขาย 2.04 บาท
5. กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF คาดอัตราเงินปันผลตอบแทน ปี2564 อยู่ที่ 9.90% เพิ่มขึ้นจากปี2563 อยู่ที่ 10.40% ซื้อ11.58 บาท
6. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อัลไล หรือ ALLY คาดอัตราเงินปันผลตอบแทน ปี2564 อยู่ที่9.50% เพิ่มขึ้นจากปี2563 อยู่ที่ 1.00% ซื้อ 9 บาท
7.กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัลหรือ DIF คาดอัตราเงินปันผลตอบแทน ปี2564 อยู่ที่ 8.70% เพิ่มขึ้นจากปี2563 อยู่ที่ 8.10% ซื้อ 16.23 บาท
8. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์บัวหลวง ออฟฟิต หรือ B-WORK คาดอัตราเงินปันผลตอบแทนปี2564 อยู่ที่ 8.20% เพิ่มขึ้นจากปี2563 อยู่ที่ 6.90% ซื้อ 14.50 บาท
9. บริษัท ศรีราชาคอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ SRICHA คาดอัตราเงินปันผลตอบแทน ปี2564 อยู่ที่ 8.20% เพิ่มขึ้นจากปี2563 อยู่ที่ 3.40% ซื้อ 18 บาท
10.ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)หรือ TISCO คาดอัตราเงินปันผลตอบแทน ปี2564 อยู่ที่ 7.70% เพิ่มขึ้นจากปี2563 อยู่ที่ 4.30% ซื้อ 107 บาท
ดังนั้นการเข้าซื้อ”หุ้นปันผล”ในช่วงนี้ หลายโบรกฯแนะนำกลยุทธ์ ถือยาวขึ้น สกัดหาอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 4% ขึ้นไป P/Eไม่เกิน15เท่าหรือมีปันผลระหว่างกาล2-3% ทยอยสะสมรับปันผลระหว่างกาลหรือจ่ายปันผลปี2564 ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มกองอสังหาริมทรัพย์ รีท กองโครงสร้างพื้นฐานมาแรง