ALT เปิดแผนรุกธุรกิจขาย ติดตั้ง ลงทุน 'โซลาร์รูฟท็อป '
ALT เปิดแผนรุกธุรกิจขาย – ติดตั้ง – ลงทุน โซลาร์รูฟท็อป ชี้ช่วยภาครัฐ - โรงงานขนาดกลางลดต้นทุนค่าใช้ไฟฟ้า
เอแอลที เปิดแผนรุกธุรกิจจำหน่ายและติดตั้ง โซล่าร์ รูฟท็อป (Solar Rooftop) ครบวงจร เน้นให้บริการ ภาครัฐและผู้ประกอบการโรงงานขนาดกลาง ที่มียอดใช้ไฟฟ้าต่อเดือน 25,000 หน่วย หรือมีค่าไฟเฉลี่ย 1 แสนบาท/เดือนขึ้นไป โดยใช้เทคโนโลยี - นวัตกรรม มาช่วยบริหาร จัดการพลังงานอย่างชาญฉลาด ช่วยลดต้นทุนการใช้ไฟฟ้าได้มากกว่า 15% รวมทั้งยัง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิด Smart Energy
น.ส.ปรียาพรรณ ภูวกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทเอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ว่า จะหันมารุกธุรกิจการให้บริการจัดจำหน่ายและติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคา หรือ Solar Rooftop ให้กับภาครัฐและผู้ประกอบการโรงงานขนาดกลาง เพื่อช่วยลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป หรือการใช้พลังงานที่มาจากแสงอาทิตย์ ทำให้ลดการพึ่งพาพลังงานจากแหล่งภายนอก มีการผลิตและใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดที่ได้จากธรรมชาติมากขึ้น มีระบบโครงข่ายอัจฉริยะเพื่อการบริหารจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ โดยใช้มิเตอร์อัจฉริยะ ระบบไมโครกริด ทั้งนี้แนวคิด Smart Energy ถือเป็นส่วนสำคัญของ เมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City ที่ใช้ประโยชน์จากการนำนวัตกรรมที่ทันสมัยและ เทคโนโลยีที่ชาญฉลาด มาทำงานร่วมกับระบบสื่อสาร
สำหรับโทรคมนาคมประสิทธิภาพสูงที่ ALT มีความเชี่ยวชาญ จึงทำให้การออกแบบ และบริหารจัดการ ระบบ Smart City มีความคุ้มค่า เกิดประโยชน์ และประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน
ขณะที่การให้บริการดังกล่าว เป็นการร่วมมือของ 3 บริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท อินโนว่า เทเลคอมมิวนิเคชั่น จำกัด (“INN”) ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายแผง “Q CELLS” แผงโซล่าเซลล์ชั้นนำของโลก บริษัท กรุ๊ป เทค โซลูชั่นส์ จำกัด (“GTS”) ผู้ให้บริการติดตั้ง และดูแลรักษา ระบบโซล่าเซลล์ และ ALT ผู้ลงทุนในรูปแบบ Private PPA (Private Power Purchase Agreement)
ส่วน Private PPA (Private Power Purchase Agreement) คือ ข้อตกลงการซื้อขายพลังงานแสงอาทิตย์ที่ผลิตได้จาก Solar Rooftop ที่ติดตั้งบนหลังคาโรงงาน หรืออาคารของผู้ประกอบการธุรกิจ โดยผู้ประกอบการฯไม่ต้องลงทุนแต่อย่างใด
รูปแบบ Private PPA (Private Power Purchase Agreement) นี้ ALT จะเป็นผู้ลงทุนในอุปกรณ์ การติดตั้ง รวมถึงดูแลรักษาระบบให้ทั้งหมด ซึ่งผู้ประกอบการจ่ายค่าไฟฟ้า (ที่ผลิตจากแผงโซลาร์) รายเดือนตามระยะสัญญา 15 ปี โดยอัตราค่าไฟฟ้าจะลดลงกว่า 15% และมั่นใจได้ว่าอำนาจในการผลิตไฟฟ้าที่ใช้งานเป็นของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นพลังงานสะอาด และดีต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นการใช้พลังงานอัจฉริยะ โดยผู้ประกอบการฯ ไม่ต้องลงทุนแต่อย่างใด