VGI คาดสื่อนอกบ้านโต 40-50% หนุนรายได้ปี 64/65 แตะ 4 พันล้าน
VGI ปักธงรายได้ปี 64/65 เติบโตแตะ 3.5-4 พันล้าน เทียบเท่าช่วงก่อนเกิดโควิด ปัจจัยหนุนจากธุรกิจสื่อนอกบ้านฟื้นตัว 40-50% หลังฉีควัคซีนโควิด-คนกลับมาเดินทาง พร้อมเดินหน้าเจรจาพันธมิตรควบรวมกิจการ คาดเห็นความชัดเจนบางดีลภายในปีนี้
นางจิตเกษม หมู่มิ่ง ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2564/65 (1 เม.ย.2564-31 มี.ค.2565) กลับมาเติบโตเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่ 3.5-4 พันล้านบาท คิดเป็นการเติบโตประมาณ 20% รายได้จากปี 2563/64 (1 เม.ย.2563-31 มี.ค.2565) ที่ 3,243.85 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจสื่อนอกบ้าน (OOH) 60-70% และรายได้จากธุรกิจบริการดิจิทัล (Digital Services) 30-40% รวมถึงคาดการณ์อัตราส่วนกำไรสุทธิ (NPAT Margin) อยู่ที่ 15-25%
ทั้งนี้ธุรกิจสื่อนอกบ้านคาดว่าจะเติบโต 40-50% จากการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ และส่งผลบวกให้จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้า (Ridership) กลับมาเติบโตประมาณ 50% ขณะที่ธุรกิจบริการดิจิทัลมีรายได้ค่าธรรมเนียมจากบัตรแรบบิท (บัตรโดยสารรถไฟฟ้า) และรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจประกัน ภายหลังร่วมทุนกับ บริษัท เอเชียไดเร็ค อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด (ADB) ซึ่งได้ประโยชน์จากการระบาดของโรคโควิด-19
ขณะที่งบลงทุนในปี 2564/65 วางไว้ที่ 450 ล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุนธุรกิจสื่อนอกบ้านของ VGU จำนวน 250 ล้านบาท โดยมีแผนลงทุนขยายสื่อนอกบ้านบนสถานีรถไฟฟ้าเซนต์หลุยส์ รวมถึงการลงทุนสื่อนอกบ้านบนสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองที่คาดจะเปิดบริการในช่วงต้นปี 2565 ขณะที่งบลงทุนอีก 200 ล้านบาท จะนำไปใช้ปรับปรุงระบบและลงทุนแพลตฟอร์มจัดการข้อมูล (Data Management Platform) สำหรับบัตรแรบบิท
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2564/65 (1 เม.ย.-30 มิ.ย.2564) คาดว่ารายได้และกำไรจะเติบโต 20% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะประเมินโควิด-19 รอบ 3 ไม่ส่งผลกระทบรุนแรงเท่าไตรมาส 1 ปี 2563/64 นอกจากนี้ บริษัทได้จัดทำโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้าไปในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดจองโฆษณาล่วงหน้า (Backlog) ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี คาดว่ารายได้และกำไรเมื่อเทียบไตรมาสก่อนจะปรับตัวลงเล็กน้อย
เมื่อสอบถามถึงดีลการซื้อกิจการ (M&A) เพื่อขยายธุรกิจ นางจิตเกษม กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาพูดคุยกับพันธมิตรอยู่หลายหลาย ทั้งพันธมิตรแนวกว้างซึ่งจะช่วยขยายระบบนิเวศ (Ecosystem) ธุรกิจของ VGI และพันธมิตรแนวลึกที่จะเข้ามาสนับสนุนธุรกิจสื่อโฆษณา ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท โดยคาดว่าในปี 2564/65 จะเห็นความชัดเจนซื้อกิจการบางราย
โดย VGI มีความแข็งแกร่งทางการเงินพร้อมสำหรับลงทุนธุรกิจใหม่ จากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ที่ค่อนข้างต่ำ 0.07 เท่า รวมถึงมีวงเงินกู้จากสถาบันการเงินอยู่ที่ 5 พันล้านบาท และมีการขออนุญาตาเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) อีก 428.05 ล้านหุ้น เพื่อรองรับดีลการซื้อกิจการขนาดใหญ่ทุกปี