'คมนาคม' ส่งผู้ป่วยโควิด-19 ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษกลับภูมิลำเนาเที่ยวแรก
“คมนาคม” ส่งรถไฟขบวนแรก นำผู้ป่วยโควิด-19 กลับภูมิลำเนา นำร่อง 6 จังหวัดอีสานตอนล่าง ถึงปลายทางอุบลราชธานี 6 โมงเย็น
วันนี้ (27 ก.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางไปยังสถานีรถไฟรังสิต เพื่อส่งผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลับภูมิลำเนา 6 จังหวัดอีสานตอนล่าง ประกอบด้วย บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร และ สุรินทร์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า โครงการส่งผู้ติดเชื้อกลับภูมิลำเนานี้ ได้รับความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงคมนาคม โดยจะดำเนินการจนกว่าความต้องการจะหมด ซึ่งกระทรวงฯ สนับสนุนบริการทุกรูปแบบ รถไฟ รถตู้ รถทัวร์ และหากจำเป็นจะประสานกองทัพอากาศในการจัดเที่ยวบินพิเศษ เพื่อขนส่งผู้ติดเชื้อกลับไปรักษา
อย่างไรก็ดี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดได้รับการประสานงานอย่างเรียบร้อยในการจัดหาสถานที่ ยืนยันว่าเป็นการส่งกลับไปภูมิลำเนาเพื่อเข้ารับการรักษา มีเตียง และโรงพยาบาลรองรับ โดยวันนี้เป็นการเริ่มต้นขนส่งผู้ติดเชื้อกลุ่มแรก ด้วยระบบรางของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มีผู้ติดเชื้อรับบริการ 135 คน ซึ่งการรถไฟฯ จะจัดเตรียมรถไฟไว้รองรับทุกวัน เต็มศักยภาพในจำนวน 250 คน และมีการแบ่งผู้ติดเชื้อออกเป็นตู้ ตู้ละ 36 คน โดยตู้รถไฟจะเป็นตู้ปรับอากาศเพื่ออำนวยความสะดวก
“วันนี้ขบวนรถไฟพิเศษจะขนส่งผู้ป่วยสีเหลือง และเขียว จำนวน 135 คน กลับไปยังภูมิลำเนา 7 จังหวัด ซึ่งจะเดินทางกลับพร้อมทีมแพทย์รวม 10 คน แต่ละจังหวัดจะมีรถพยายาลเครือข่ายมารับผู้ป่วยจากสถานีรถไฟไปยังโรงพยาบาลสนามของแต่ละท้องที่ที่ได้ประสานงานล่วงหน้า ดังนั้น ประชาชนในแต่ละจังหวัดปลายทางไม่ต้องกังวลเรื่องของความปลอดภัยและการแพร่กระจายเชื้อสู่ยืนยันว่าปลอดภัย 100%”
ส่วนกรณียุบศูนย์วัคซีนกลางบางซื่อนั้น ตนขอยันยืนยันว่าไม่ได้เป็นตามพาดหัวข่าวแน่นอนว่ายุบ จะยุบได้อย่างไร และไม่ต้องกังวลที่ผ่านมาเราทำสิ่งที่ดีแล้ว ซึ่งหากจะดูจากยอดการฉีดวัคซีนของสถานีบางซื่อ สิ้นสุด ณ วันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา สามารถฉีดให้ประชาชนได้มากถึง 1 ล้านคน
ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เผยว่า กระทรวงฯ ได้ประชุมร่วมกระทรวงสาธารณสุข ในการวางแผนผู้ป่วยที่ลงทะเบียน สปสช. บูรณาการจังหวัดปลายทางรับตัวกลับไปยังภูมิลำเนา ซึ่งหากมีจำนวนมากจะใช้ระบบขนส่งทางราง โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เป็นขบวนรถตู้นอนปรับอากาศเป็นระบบปิด เชื้อไม่ฟุ้งกระจาย
อย่างไรก็ดี ในวันนี้ (27 ก.ค.) เป็นการขนส่งผู้ป่วยครั้งแรก โดยนำผู้ป่วยมาขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟรังสิต ซึ่งมีโอกาสสัมผัสพี่น้องประชาชนน้อยมาก เพราะเป็นสถานีของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ที่ยังไม่ได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการ ยืนยันว่าไม่มีความเสี่ยงไปยังพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่รอบข้าง รวมทั้งได้มีการหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และผู้ว่าในแต่ละจังหวัดอย่างใกล้ชิด ถึงแผนการส่งต่อผู้ป่วย ซึ่งทุกขั้นตอนอยู่ภายใต้การควบคุมของสาธารณสุข
นอกจากนี้ หากกลุ่มจังหวัดที่ระบบขนส่งทางราง เส้นทางรถไฟไม่ผ่าน กระทรวงฯ ได้ประสานระบบขนส่งทางบก ประเภทรถบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส.เพื่อรองรับส่งผู้ติดเชื้อไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลภูมิลำเนา หรือหากกลุ่มเล็กกว่านี้ กระทรวงฯ ก็จะประสานรถพยาบาลหรือมูลนิธิ โดยยืนยันว่าโครงการนี้เป็นนโยบายของรัฐบาลในการส่งคนกลับภูมิลำเนาเพื่อนำไปรักษา
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่ารถไฟขบวนพิเศษเที่ยวแรก จะออกเดินทางจากสถานีรังสิต วันนี้ (27 ก.ค.) ในเวลา 9.15 นาท ถึงปลายอุบลราชธานีเวลาประมาณ 18.00 น. โดยจะมีการ บรรทุกกลุ่มผู้ป่วย เป็นกลุ่มสีเขียว และเหลือง แบบแยกตู้โดยสารกัน โดยจะมีบุคลากรทางการแพทย์เดินทางไปด้วยแบบแยกตู้โดยสารเพื่อดูแลผู้ป่วย
รวมทั้งในส่วนของผู้ป่วย ก็มีการแยกโบกี้ระหว่างผู้ป่วยกลุ่มยืนยันด้วยผลตรวจ RT PCR positive กับกลุ่มผลตรวจ ATK positive เพื่อป้องกันกรณีที่ผู้มีผลตรวจ ATK positive คลาดเคลื่อนมาปะปนกับผู้ที่ผลตรวจชัดเจนแล้ว และก่อนออกเดินทางสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) จะมีการประเมินอาการของผู้ป่วยทุกรายก่อนให้ออกเดินทาง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยเอง
