ราคาน้ำมันร่วง 4% หลัง UN เรียกร้อง โลกยุติใช้น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 4% ใกล้หลุดระดับ 65 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากที่องค์การสหประชาชาติ (UN) เรียกร้องให้นานาชาติยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหิน ขณะที่ภาวะโลกร้อนกำลังใกล้เข้าสู่ระดับวิกฤติ
เมื่อเวลา 18.18 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ดิ่งลง 3.05 ดอลลาร์ หรือ 4.46% สู่ระดับ 65.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
รายงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ระบุว่า ระดับก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ ในขณะนี้สูงพอที่จะส่งผลเสียต่อสภาพภูมิอากาศไปอีกหลายสิบปีหรือหลายร้อยปีข้างหน้า
นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ UN เรียกร้องให้นานาชาติยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหิน รวมทั้งพลังงานอื่นๆที่ปล่อยมลพิษในระดับสูงโดยทันที
"รายงานนี้เป็นการส่งสัญญาณให้ยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหินก่อนที่พวกมันจะทำลายโลกของเรา" นายกูเตอร์เรสกล่าวในแถลงการณ์
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลที่ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน รวมทั้งการที่สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายจังหวัดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่จีนออกมาตรการคุมเข้มในหลายเมือง รวมทั้งยกเลิกเที่ยวบิน และการขนส่งในภาคสาธารณะ
ทางด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล