"ทวี" แจงเนื้อหา แก้พ.ร.ป.พรรคการเมือง หวังขยายการมีส่วนร่วมของ "ประชาชน"

          พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นร่างแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่...) พ.ศ.... ว่า ทางพรรคและส.ส.ที่ร่วมเข้าชื่อ ได้ยื่นร่างพ.ร.ป.ดังกล่าว ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2564 ส่วนที่ไม่ได้ร่วมยื่นกับทางพรรคเพื่อไทยนั้น เพราะมีส.ส.ร่วมลงชื่อเพียงพอ โดยมีส.ส.จากทุกพรรคการเมือง รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล สนับสนุน ทั้งนี้ในสาระที่แก้ไขและเสนอต่อรัฐสภานั้นผ่านการรับฟังความเห็นจากประชาชน นักวิชาการ และนำผลของการวิจัยถึงการบังคับใช้ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ซึ่งพบปัญหานำมาปรับแก้ไข 

          ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่เสนอตัดการมีส่วนร่วมของประชาชน การส่งผู้สมัครส.ส.บัญชีรายช่ือที่คำนึงถึงความเสมอภาค ความเท่าเทียมชาย หญิง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เนื้อหาที่เสนอยังยืนยันทำตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 45 กำหนดให้ประชาชนมีส่วนร่วม แต่เนื้อหาที่บัญญัติไว้เดิมนั้นเป็นการจำกัดการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางของประชาชนในพรรคการเมือง และทำให้เป็นภาระของพรรค โดยเฉพาะการกำหนดให้ต้องทำไพรมารี่โหวตทุกเขตเลือกตั้ง คือ 400 เขต 

          “การแก้ไขของพรรคประชาชาติ เพื่อปลดโซ่ตรวน และเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง โดยการนำเนื้อหาไปเขียนไว้ในข้อบังคับพรรคแทน ทั้งนี้พรรคการเมืองที่จะเป็นสถาบันของประชาชน จำเป็นอย่างยิ่งต้องเปิดกว้าง ไม่ใช่ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ เจ้าหน้าที่บางคนครอบงำ” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

          เมื่อถามถึงเนื้อหาที่ตัดการยุบพรรค และบุคคลที่ไม่เป็นสมาชิกพรรคเข้าครอบงำกิจกรรมพรรคการเมือง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวเมื่อเขียนไว้ในพ.ร.ป. ทำให้ถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อหาเหตุให้ยุบพรรคการเมือง อีกทั้งการกำหนดนิยามไว้แบบแคบทำให้กฎหมายอยู่เหนือสิทธิ เสรีภาพและการมีส่วนร่วมของประชาชน ทั้งนี้ยืนยันว่าเนื้อหาที่เสนอแก้ไขนั้น มาจากการรับฟังความเห็นและผลการศึกษาวิจัยข้อมูล ส่วนกรณีที่สำนักงานเลขาธิการสภาฯ เปิดรับฟังความเห็นและล่าสุดมีผู้แสดงความเห็นเพียง 1 คนนั้น ตนมองว่าขั้นตอนของสภาฯเป็นเพียงพิธีกรรม