ศบค. ไม่ระงับ "เทสต์แอนด์โก" หลังพบติดเชื้อ 2.55% ยังควบคุมได้
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. เผย นายกฯ ย้ำทุกจังหวัดเตรียม รพ.สนาม รองรับสถานการณ์หากมีความจำเป็น พร้อมระบุไม่ระงับ "เทสต์แอนด์โก" เข้าประเทศ พบติดเชื้อร้อยละ 2.55 ยังควบคุมได้
เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 65 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ระบุว่า คลัสเตอร์ที่พบในวันนี้ยังพบร้านอาหารที่เปิดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ จ.สงขลา ขอนแก่น คลัสเตอร์โรงเรียน ที่จ.น่าน หนองคาย เลย สุพรรณบุรี นครราชสีมา สุรินทร์ ร้อยเอ็ด จันทบุรี หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ พะเยา คลัสเตอร์ตลาดพบที่ จ.นครราชสีมา อุบลราชธานีนครพนม จันทบุรี สุรินทร์ เพชรบุรี คลัสเตอร์พิธีกรรม พบที่ จ.มุกดาหาร กาฬสิน หนองคาย
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เน้นย้ำไปที่ฝ่ายปกครองทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ติดตามเฝ้าระวังพื้นที่ ที่มีการแพร่ระบาดซ้ำ เช่น ตลาด ขอให้เข้าไปเข้มงวดมาตรการ เพราะหลายแห่งมีการติดแล้วติดอีก นอกจากนี้ยังพบการระบาดในสถานพยาบาล อาทิโรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลศิริราช รวมถึงโรงพยาบาลใน จ.สุรินทร์ เชียงใหม่ ขอนแก่นยะลา การระบาดในสถานที่พยาบาลจะทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องกักตัวและขาดแคลนบุคคลากรในการดูแลประชาชน จึงขอให้เข้มงวดการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ พร้อมกันนี้ศบค.อยากให้ประชาชนงดเว้นกิจกรรมรวมกลุ่ม อะไรที่ชะลอได้ขอให้ชะลอไว้ก่อน แต่ถ้าจำเป็นต้องจัดกิจกรรมขอให้เข้มงวดมาตรการ เช่นการตรวจโควิดก่อนทำกิจกรรม
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวอีกว่า กรมการแพทย์กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าอัตราครองเตียงในปัจจุบันยังมีเพียงพอในการรองรับผู้ป่วยหนักและมีโรคประจำตัว ใครป่วยเป็นโควิดแล้วมีอาการสีเขียวขอให้เลือกรักษาตัวที่บ้าน เข้าใจว่าผู้ป่วยที่มีอาการน้อยอยากรักษาตัวที่โรงพยาบาล เพราะอาจจะไม่มั่นใจในระบบการรักษาที่บ้าน เราจึงขอความร่วมมือทุกคนให้ช่วยกันพัฒนาระบบ ติดขัดอะไรก็ขอให้ร้องเรียนเข้ามาเพื่อปรับปรุง เราต้องประคับประคองระบบสาธารณสุขให้ผู้ป่วยที่มีความจำเป็นจริงๆ เชื่อว่าเราน่าจะผ่านวิกฤตตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงนี้ไปได้ และหากใครไม่สามารถรักษาตัวที่บ้านได้ก็ขอให้ประสานเจ้าหน้าที่เพื่อเข้ารักษาตัวที่ศูนย์พักคอยในชุมชน ยืนยันจะได้รับความสะดวกอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดจัดเตรียมโรงพยาบาลสนามรองรับสถานการณ์หากมีความจำเป็น
ทั้งนี้ พญ.อภิสมัย กล่าวด้วยว่า ระบบ Test&Go ที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า จะระงับการเดินทางเข้าประเทศด้วยระบบนี้ แต่เมื่อไปดูในยอดของระบบ Test&Go นับตั้งแต่วันที่ 1- 20 ก.พ. 65 มีผู้เดินทางเข้าประเทศมาจำนวน 137,090 คน พบรายงานติดเชื้อ 3,495 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.55 คือในจำนวน 100 คนมีติดเชื้อไม่ถึง 3 คน ซึ่งถือว่าระบบสาธารณสุข และมาตรการที่ใช้อยู่ยังสามารถรองรับได้ ต่อให้เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศแถบยุโรปที่มีการผ่อนคลายมาตรการแล้ว แต่เมื่อเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ก็ยังคงต้องทำตามมาตรการของสาธารณสุขไทยอยู่