พิษ "น้ำมันรั่ว" น้ำมันแพง ทำนักท่องเที่ยวหาย หลายหาดสุดซบเซา

พิษ "น้ำมันรั่ว" น้ำมันแพง ทำนักท่องเที่ยวหาย หลายหาดสุดซบเซา

บรรยากาศที่ เกาะเสม็ด และชายหาดหลายแห่งในจังหวัดระยอง ยังไม่คึกคักทั้งที่เป็นวันหยุด และเป็นช่วงฤดูร้อนซึ่งถือเป็นไฮซีซั่น ทว่าพิษ "น้ำมันรั่ว" น้ำมันแพง ทำนักท่องเที่ยวหาย หลายหาดสุดซบเซา

(12 มีนาคม 2565) บรรยากาศที่ เกาะเสม็ด และชายหาดหลายแห่งในจังหวัดระยอง ยังไม่คึกคักทั้งที่เป็นวันหยุด และเป็นช่วงฤดูร้อนซึ่งถือเป็นไฮซีซั่น ซึ่งในทุกปีก็จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวชายทะเล แต่ในปีนี้ผลจากเหตุ "น้ำมันรั่ว" ทำให้การท่องเที่ยวทะเลไม่คึกคักโดยเฉพาะบนเกาะเสม็ด ชายหาดเงียบเหงาไร้เงานักท่องเที่ยวที่พักต่างๆก็ว่างไม่มีลูกค้าเข้าพัก

 

 

นางสริญทิพย์ ทัพมงคลทรัพย์ นายกสมาคมท่องเที่ยว เกาะเสม็ด บอกว่า ในวันนี้ซึ่งเป็นวันเสาร์และเป็นอีก 1 วันที่บรรยากาศบนเสม็ดเงียบเหงามาก ทั้งที่เป็นวันหยุด แม้เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวแต่กลับไม่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่เกาะเสม็ด ซึ่งไม่ใช่สถานการณ์โควิด-19 แล้ว เพราะเรื่องโควิดมีการแก้ไขให้นักทอ่งเที่ยวเกิดความเชื่อมั่นและความเข้าใจ โดยผู้ที่จะมาท่องเที่ยวที่เกาะเสม็ดทุกคนต้องตรวจ ATK แต่ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักคือเรื่อง "น้ำมันรั่ว" ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา

 

แม้จะผ่านมานานแล้ว แต่ข่าว "น้ำมันรั่ว" ที่ขึ้นตามชายหาดก็ยังไม่จบ พบว่ามี คราบน้ำมัน ขึ้นต่อเนื่องทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่น ซ้ำต้องมาเจอกับสถานการณ์น้ำมันแพงอีก ประชาชนก็ไม่อยากออกไปไหน ซึ่งเรื่องดังกล่าว ไม่เป็นผลดีกับภาคการท่องเที่ยว อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวที่กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก

 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 เกิดน้ำมันรั่วลงทะเล ซึ่งเป็นการรั่วรอบแรกกว่า 40,000 ลิตร คราบน้ำมันทะลักเข้าชายหาดแม่รำพึง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง

 

และรั่วซ้ำรอบ 2 อีก 5,000 ลิตร เมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2565 จนถึงขณะนี้ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง หรือ SPRC ยังไม่สามารถอุดรอยรั่วได้ จุดเกิดเหตุอยู่ในทะเลมีความลึก 25-30 เมตร ห่างชายฝั่งแม่รำพึง 20 กม. และ ห่างฝั่งบ้านเพ 30 กม.