คืบหน้า เหตุ "เรือบรรทุกน้ำมัน" ระเบิดกลางเจ้าพระยา

คืบหน้า เหตุ "เรือบรรทุกน้ำมัน" ระเบิดกลางเจ้าพระยา

ความคืบหน้า เหตุ "เรือบรรทุกน้ำมัน" 3 ล้านลิตร ระเบิดกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านแหลมฟ้าผ่า จ.สมุทราปราการ ลูกเรือเสียชีวิตทันที 1 ราย และสาหัสอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่เร่งขนย้ายลูกเรืออีก 12 ชีวิต

เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้ "เรือบรรทุกน้ำมัน" ขนาดใหญ่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า เจ้าหน้าที่กองทัพเรือ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รีบเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ

ที่เหตุเกิด พบเรือ "อัมภา 8" บรรทุกน้ำมันดิบ จำนวน 3,200,000 ลิตร ลอยลำอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้บริเวณหัวเรือ เจ้าหน้าที่มูลนิธิ จึงนำกำลัง พร้อมเครื่องอุปกรณ์ดับไฟลงเรือ ซึ่งการทำงานเป็นไปอย่างอยากลำบาก โดยเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันระดมฉีดน้ำ นานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ยังสามารถควบคุมเพลิงได้

คืบหน้า เหตุ \"เรือบรรทุกน้ำมัน\" ระเบิดกลางเจ้าพระยา

จากการตรวจสอบว่า บนเรือมีคนงานอยู่ทั้งหมด 14 คน ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย และเสียชีวิต 1 ราย เนื่องจากถูกแรงระเบิด อัดร่างกระเด็นตกน้ำ ส่วนลูกเรือที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงขึ้นฝั่งแล้วทั้งหมด จำนวน 12 ราย

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบ พบว่าเรือ "อัมภา 8" ได้บรรทุกน้ำมันดิบ จำนวน 3.2 ล้านลิตร เพื่อมาส่งให้กับสถานีกลั่นน้ำมันที่ท่าเรือบางจาก แต่ในขณะเรือแล่นมาตาม เส้นทาง หรือร่องน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ตามที่ได้กำหนดไว้ ขณะนั้นได้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเกิดการระเบิดขึ้นมาบริเวณด้านหน้าเรือ จนทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

คืบหน้า เหตุ \"เรือบรรทุกน้ำมัน\" ระเบิดกลางเจ้าพระยา

โดยแรงอัดจากระเบิดดังกล่าว ทำให้ลูกเรือที่ดูแลบริเวณด้านหน้าเรือ หรือส่วนหัวเรือ ถูกแรงอัดกระเด็นตกน้ำทันที จนทำให้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ประจำเรือ ได้วิทยุของความช่วยเหลือเป็นการด่วน เนื่องจากบนเรือมีน้ำมันอยู่เป็นจำนวนมาก และเกรงว่าอาจจเกิดอันตราย ต่อชุมนุมริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบกับแรงลม ได้พัดเข้าหาตัวเรือ ดังนั้น จึงทำให้กัปตัน สั่งให้ถอย "เรือบรรทุกน้ำมัน"  ออกไปทางปากอ่าวไทย

คืบหน้า เหตุ \"เรือบรรทุกน้ำมัน\" ระเบิดกลางเจ้าพระยา

เนื่องจากไม่ต้องการให้กระแสลม พัดความร้อน หรือเปลวไฟ เข้าหาตัวเรือ เบื้องต้นขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดเอาไว้ได้แล้ว โดยได้พยายามระบายความร้อนที่สะสมออกจากบริเวณส่วนหัวเรือ เนื่องจากกลัวว่าจะเกิดความร้อนสะสม จนทำให้เกิดอันตรายกับน้ำมันที่บรรทุกมา "เรือบรรทุกน้ำมัน"

จากการสอบถามนายพงศ์ชัย สิงหวรรณกุล กัปตันเรือบรรทุกน้ำมันลำดังกล่าว เล่าว่า เรือบรรทุกน้ำมันดิน จำนวน 3.2 ล้านลิตร มาจากเกาะสีชัง จ.ชลบุรี กำลังจะไปส่งที่คลังบางจาก พอขับมาถึงจุดเกิดเหตุได้สตาร์ทมอเตอร์กว้านที่จะลงสมอเรือ เพื่อที่จะจอดเรือ ก็เกิดระเบิดขึ้นมาทันทีก่อนจะเกิดไฟลุกไหม้ ตนคาดว่าน่าจะมีแก๊สน้ำมันน่าจะฟุ้งระเหยอยู่ภายใน และตัวสตาร์ทมอเตอร์กว้านเป็นระบบไฟฟ้า จึงน่าจะทำให้การสปาร์คเกิดประกายไฟไปติดกับน้ำมันที่ลอยฟุ้งทั่วห้อง ลูกเรือที่มากับเรือทั้งหมดรวมตนที่เป็นกัปตันเรือ 14 คน และเจ้าหน้าที่ติดเรือมาอีก 2 คน รวมเป็น 16 คน มีผู้บาดได้รับบาเจ็บ 1 ราย มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยต้นเรือ และเสียชีวิต 1 ราย ตำแหน่งเป็นต้นเรือ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าในระหว่างที่เปิดระบบทิ้งสมอเรือซึ่งเป็นระบบไฟฟ้า น่าจะเกิดประกายไฟ และภายในห้องมีน้ำมันระเหยอยู่ทั่วห้อง ทำให้เกิดการระเบิดและไฟไหม้ดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป