ชป. ป้องน้ำเค็มรุกลุ่มน้ำบางปะกง ช่วยชาวแปดริ้ว-ปราจีนบุรี มีน้ำอุปโภคบริโภค
ชป. ป้องน้ำเค็มรุกตัวในลุ่มน้ำบางปะกง ช่วยชาวแปดริ้ว-ปราจีนบุรี ให้มีน้ำอุปโภคบริโภคและเกษตรกรรม พร้อมขอความร่วมมือทุกภาคส่วนงดรับน้ำจากแม่น้ำบางปะกง แม่น้ำปราจีนบุรีเข้าพื้นที่ในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงสุด เพื่อให้การควบคุมความเค็มเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
กรมชลประทาน เตรียมระบายน้ำ เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก เสริมน้ำที่ระบายมาจากอ่างเก็บน้ำคลองสียัดและอ่างเก็บน้ําคลองระบม จังหวัดฉะเชิงเทราก่อนหน้า เพื่อช่วยชะลอน้ำเค็มรุกตัวในลุ่มน้ำบางปะกง ช่วยให้พี่น้องประชาชนชาวฉะเชิงเทราและปราจีนบุรีมีน้ำอุปโภคบริโภคและเกษตรกรรมใช้ตามเวลาที่กำหนด ตามนโยบายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 9 ได้ปรับแผนการระบายน้ำเขื่อนขุนด่านปราการชล เพื่อควบคุมความเค็มในลุ่มน้ำบางปะกง เนื่องจากระดับน้ำในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำบางปะกง โดยเฉพาะในแม่น้ำปราจีนบุรีได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในช่วง 15-17 ธันวาคม 2567 กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ คาดการณ์ว่า
น้ำทะเลจะหนุนสูงสุด ทำให้ค่าความเค็มมีแนวโน้มที่จะรุกตัวเข้ามาถึงจุดควบคุมที่ 1 บริเวณเขื่อนบางปะกงระยะทาง 66 กิโลเมตร จากปากแม่น้ำบางปะกง ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ล่าสุดวันที่ 14 ธันวาคม 2567 วัดค่าความเค็มสูงสุดได้ 1.33 กรัมต่อลิตร เกินเกณฑ์ควบคุมค่าความเค็มจุดควบคุมที่ 1 ที่จะต้องไม่เกิน 1 กรัมต่อลิตร ก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2567
ดังนั้น เพื่อให้การควบคุมความเค็มในลุ่มน้ำบางปะกงในช่วงฤดูแล้งปี 2567/2568 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามสถานการณ์น้ำที่เกิดขึ้นจริง สำนักงานชลประทานที่ 9 ได้ปรับแผนการระบายน้ำจากเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก โดยจะเริ่มระบายน้ำในช่วงวันที่ 14-19 ธันวาคม 2567 (เดิมวางแผนระบายน้ำไว้ในช่วงวันที่ 1-31 มกราคม 2568) ในอัตรา 1 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน รวมปริมาณน้ำทั้งสิ้น 31 ล้าน ลูกบาศก์เมตร ก่อนจะระบายน้ำอีกครั้งในวันที่ 1-26 มกราคม 2568 ในอัตราเท่าเดิม พร้อมกันนี้ ได้ให้โครงการชลประทานที่เกี่ยวข้องประสานหน่วยงานท้องถิ่น ร่วมกันประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนงดรับน้ำจากแม่น้ำบางปะกง แม่น้ำปราจีนบุรีเข้าพื้นที่ในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงสุด เพื่อให้การควบคุมความเค็มเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ