รถไฟฟ้าสายสีเขียว ดันราคาที่ดินพุ่ง100%
แอสเซทไวส์ ชี้ราคาที่ดิน พหลโยธิน-รามอินทรา ขยับขึ้น 100% หลังรถไฟสายสีเขียวเริ่มสร้าง เร่งปักธง ส่ง 2 โครงการ
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด เปิดเผยว่า การก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ซึ่งถือเป็นสายที่มีศักยภาพมากที่สุดเพราะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสุขุมวิท มุ่งตรงสู่หมอชิต สยาม และอโศก และเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู
ส่งผลให้ราคาที่ดินเสนอขายในแนวรถไฟฟ้าสายดังกล่าวปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะใน 5 สถานี คือ สถานีบางบัว สนานีราบ 11 สถานีอนุสาวรีย์หลักสี่ สถานีสะพานใหม่ และสถานีสายหยุด ราคาเสนอขายสูงถึง 2.5 แสนบาทต่อตร.ว. เพิ่มขึ้นจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา 100% และมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นอีก
ขณะที่ซัพพลายในบริเวณ 5 สถานีมีจำนวนไม่มาก เพราะถูกตลาดดูดซับไปแล้ว 90% ช่วงครึ่งปีหลังจะมีซัพพลายใหม่เข้ามาอีก 2,000 ยูนิต ซึ่งในทำเลดังกล่าวใกล้กับสนามบิน จึงกำหนดให้สร้างอาคารความสูงไม่เกิน 14-15 ชั้น อีกทั้งที่ดินที่เลยสะพานใหม่เป็นสถานที่ราชการ ทำให้หาที่ดินได้ยากอีกมีราคาสูง ดังนั้นซัพพลายจึงมีไม่มาก ขณะที่ดีมานด์ในย่านดังกล่าวเป็นชุมชนหนาแน่น ทั้งสะพานใหม่และสายไหม เชื่อว่ายังมีความต้องการอยู่มาก แต่ต้องพัฒนาโครงการและขายในราคาไม่สูงมาก
“เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้าสู่ทำเลนี้มากขึ้น ปัจจุบันมีโครงการของผู้ประกอบการรายกลางและเล็กเปิดตัวแล้ว 2-3 โครงการ ราว 1,500 ยูนิต ขายไปแล้ว 90% สะท้อนว่ากำลังซื้อยังมีสูง”
บริษัทเตรียมเปิดตัว 2 โครงการใหม่ “โมดิซ สเตชั่น” ตั้งอยู่ทำเลพหลโยธิน–รามอินทรา ติดบันไดรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีอนุสาวรีย์หลักสี่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม โลว์ไรส์ 8ชั้น 1 อาคาร รวม 246 ยูนิต มูลค่า 570 ล้านบาท ขนาดห้องตั้งแต่ 23.27 – 48.12 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท หรือ 9 หมื่นบาทต่อตร.ม. ในขณะนี้ได้เปิดลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ เพื่อรับส่วนลด1 แสนบาท โดยปัจจุบันมีลูกค้าลงทะเบียนแล้วกว่า 100 ราย เปิดขายในวันที่ 3–4 ก.ย.นี้
เดือนต.ค.นี้ เตรียมเปิดโครงการ โมดิซ อินเตอร์เชนจ์ ทำเลจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีชมพู เป็นคอนโด โลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร รวม 217 ยูนิต ขนาดห้อง 23-48 ตร.ม.ราคา 9 หมื่นบาทต่อตร.ม. มูลค่าโครงการ 530 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในเดือนพ.ย. มีแผนเปิดตัวโครงการ “บราวน์” จำนวน 200 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 7 หมื่นบาทต่อตร.ม.. หรือ 1.5 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่าโครงการ 470 ล้านบาท ตั้งอยู่ในซอยรัชดา 32
สำหรับผลการดำเนินงานถึงปัจจุบันมียอดขายรวม 1,100 ล้านบาท โดยในช่วงต้นปีดขาย 2 โครงการ ได้แก่ วินน์ คอนโดมิเนียม พหลโยธิน 52 และดิ เออเนอร์ โดยตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2559 อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
นายกรมเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ คาดว่ายังมีการเติบโต โดยเฉพาะระดับราคา 1.5-2 ล้านบาท แต่ราคาสูงกว่าตลาดจะชะลอตัวและขายได้ช้า เพราะกำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัวมาก