เปิดเงื่อนไข “ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย” สินค้า 4 หมื่นรายการโดดร่วม

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า วันนี้ (17ต.ค.) ที่อาคาร ททท.สำนักงานใหญ่ จะจัดแถลงเกี่ยวกับโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว “ถึงเวลาทัวร์ ให้ทั่วไทย” ซึ่งเป็นมาตรการเสริมของมาตรการหลักชิมช้อปใช้ โดยรายละเอียดเบื้องต้นของกิจกรรม “ร้อยเดียว เที่ยวทั่วไทย” จะเปิดให้นักท่องเที่ยวคนไทยผู้มีอายุตั้งแต่18ปีขึ้นไป ลงทะเบียนในมินิเว็บไซต์ แล้วล็อกอินเข้าระบบเพื่อเลือกซื้อสินค้าท่องเที่ยวและบริการ ราคาหน่วยละ100บาทต่อคนต่อรายการ นักท่องเที่ยว1คนใช้ได้เพียง1ครั้งเท่านั้น ขณะที่การใช้สิทธิ์ใช้ได้เฉพาะนอกจังหวัดที่ปรากฏบนบัตรประชาชน

ทั้งนี้จำนวนสินค้าที่ร่วมโครงการมีทั้งหมดไม่น้อยกว่า40,000รายการ แบ่งเป็น สัดส่วนของหมวดการเดินทาง35%ของสินค้าทั้งหมด ได้แก่ ตั๋วเครื่องบิน จำนวน8,000รายการขึ้นไป และตั๋วรถโดยสาร6,000รายการขึ้นไป ส่วนหมวดที่พักมีสัดส่วน20%ครอบคลุมโรงแรมตั้งแต่ระดับ3-5ดาว จำนวน8,000รายการขึ้นไป ขณะที่หมวดสินค้าท่องเที่ยวและบริการ เช่น ตั๋วเข้าสวนน้ำ สวนสนุก การแสดงโชว์ รายการทัวร์ และอื่นๆ มีสัดส่วน45%คิดเป็นจำนวน18,000รายการขึ้นไป

“นักท่องเที่ยวไทยสามารถลงทะเบียนและร่วมซื้อสินค้าในกิจกรรมร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทยซึ่งจะจัดขึ้นจำนวน4ครั้ง ครั้งละ10,000รายการ ได้แก่ วันที่11-12พ.ย. และวันที่11-12ธ.ค.นี้ ได้ตั้งแต่เวลา6.00 – 24.00น. ในแต่ละครั้ง หรือจนกว่าของจะหมด เมื่อซื้อแล้วนักท่องเที่ยวต้องจ่ายเงินผ่านระบบเพย์เมนต์ และใช้สินค้าได้ตั้งแต่วันที่11พ.ย.-31ธ.ค.นี้”

สำหรับความน่าสนใจของกิจกรรมร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย จะมีสินค้าพรีเมียม เช่น โรงแรมที่พักในระดับ4-5ดาว ไม่น้อยกว่า5%ของที่พัก พร้อมมอบของขวัญสุดเซอร์ไพรส์สำหรับผู้เข้าซื้อสินค้าในลำดับที่6,000 / 7,000 / 8,000 / 9,000และ10,000ของแต่ละรอบ และของขวัญพิเศษแก่นักท่องเที่ยวหัวใจสีเขียว นอกจากนี้เตรียมสุ่มมอบของรางวัลแก่ผู้ร่วมส่งภาพถ่ายความสุขหลังจากไปใช้สินค้า

“ททท.ประเมินว่าจากการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาที่กำหนด จะมีผู้ร่วมกิจกรรมนี้ไม่น้อยกว่า40,000คน และมีผู้ร่วมเดินทางไม่น้อยกว่า20,000คน รวมทั้งหมดไม่น้อยกว่า60,000คน ทั้งนี้คาดด้วยว่าจะสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนจากกิจกรรมร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทยไม่ต่ำกว่า297ล้านบาท”

ด้านคุณสมบัติผู้ประกอบการที่ร่วมเสนอสินค้าและบริการด้านท่องเที่ยวในกิจกรรมนี้ จะต้องเป็นผู้ดำเนินกิจการถูกต้องตามกฎหมาย อาทิ มีเอกสารแสดงเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร และมีเอกสารแสดงการเสียภาษีที่ถูกต้อง, ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะต้องทำโปรโมชั่นร่วม โดยจะได้รับเงินสมทบ50%ของมูลค่าสินค้า ทั้งนี้สูงสุดไม่เกิน1,000บาทต่อหน่วย, ผู้ประกอบการจะต้องระบุรายละเอียดของรายการส่งเสริมการขาย จำนวน พร้อมเงื่อนไขให้ชัดเจนในแบบฟอร์มลงทะเบียน โดยจะต้องเป็นรายการส่งเสริมการขาย สินค้าที่ลูกค้าสามารถเดินทางและใช้บริการได้ภายในวันที่31ธ.ค.2562นี้

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ทั้งกิจกรรมร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย และวันธรรมดาราคาช็อกโลก โดยการกรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มยังไม่ถือเป็นการยืนยันการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย แบบฟอร์มดังกล่าวเป็นเพียงแบบสอบถามความสนใจของผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการ สามารถติดตามช่องทางการลงทะเบียน รายละเอียด และเงื่อนไขได้ที่www.tourismthailand.org/ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย

นายยุทธศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับอีกกิจกรรม “วันธรรมดาราคาช็อกโลก” จะนำสินค้าท่องเที่ยวมาลดราคาสูงสุด70%ไม่จำกัดโควต้าเหมือนกิจกรรมร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย โดยสามารถใช้เดินทางท่องเที่ยวได้ในวันธรรมดา ตั้งแต่วันจันทร์-พฤหัสบดี ภายในวันที่31ธ.ค.นี้

ขณะที่งบประมาณส่งเสริมทั้ง2กิจกรรมนี้อยู่ที่วงเงินรวม116ล้านบาท แบ่งเป็น กิจกรรมร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย วงเงิน 63.5 ล้านบาท ส่วนกิจกรรมวันธรรมดาราคาช็อกโลก วงเงินอยู่ที่ 52.5 ล้านบาทคาดว่าจะช่วยเสริมมาตรการชิมช้อปใช้ได้เป็นอย่างดี มีจำนวนคนไทยเที่ยวในประเทศมากขึ้น10-20%สร้างรายได้เพิ่มขึ้น5-10%ทำให้เกิดมูลค่าเศรษฐกิจหมุนเวียนได้ตามเป้าหมาย

และยังช่วยดึงคนไทยให้สนใจเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศไทยมากขึ้น ในภาวะที่เงินบาทแข็งค่า เอื้อให้คนไทยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีไม่ต่ำกว่า10ล้านคน เป็นจำนวนคนไทยเที่ยวญี่ปุ่นมากถึง1.2ล้านคน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-ช้อปรัวๆ !! เคาะ 4 วันลงทะเบียน “ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย”

-กระตุ้นท่องเที่ยว แจ้งปชช.เตรียมลงทะเบียน '100เดียวเที่ยวทั่วไทย'

-นโยบายทางเลือกอื่นที่ดีกว่า “ชิมช้อปใช้

-‘หุ้นท่องเที่ยว’ เฮ! รับ ‘ชิมช้อปใช้’ ตลาดจีนเที่ยวไทยฟื้น