ตระกูลดังจองหุ้น AWC อื้อ ลูกสาว'เจ้าสัววิชัย'ทุ่มซื้อ 90 ล้านบาท

ในบรรดา “หุ้นไอพีโอ” หรือ หุ้นที่เสนอขายให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรกของปีนี้ ไม่มีหุ้นไหนที่ “สั่นสะเทือน” วงการไปมากกว่าหุ้น บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป(AWC) เพราะนอกจากเป็นหุ้นที่มี “ขนาดใหญ่” หรือ มีมูลค่าตามราคาตลาด(มาร์เก็ตแคป) ณ วันเสนอขายไอพีโอ “สูงสุด” เป็นประวัติการณ์แล้ว ยังเป็นหุ้นที่ราคาไอพีโอ “แพง” ติดอันดับต้นๆ เท่าที่เคยมีการเสนอขายมาด้วย

“แอสเสท เวิรด์” เสนอขายหุ้นไอพีโอรวมไม่เกิน 8,000 ล้านหุ้น ในจำนวนนี้มีหุ้นจัดสรรส่วนเกิน(กรีนชู) ราว 1,043 ล้านหุ้น เสนอขายที่ราคา 6 บาท เทียบอัตราส่วนกำไรต่อราคาหุ้น หรือ “พี/อี” ที่ 277.6 เท่า 

แม้ แอสเสท เวิรด์ จะเคาะราคาหุ้นไอพีโอออกมาแพงลิ่ว แต่นักลงทุนจำนวนมากยังคงสนใจ โดยยังไม่ทันเปิดขายจริง ก็มี “นักลงทุนสถาบัน” ราว 13 รายจองซื้อหุ้นรวมแล้ว 3,454 ล้านหุ้น หนึ่งในนี้ คือ GIC Private Limited ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนรัฐบาลสิงคโปร์

นอกจากนักลงทุนสถาบันจำนวนมากที่ให้ความสนใจหุ้นตัวนี้แล้ว จากการเปิดเผยรายชื่อ “บุคคลธรรมดา” และ “นิติบุคคล” โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) พบว่า มีคนจาก “ตระกูลดังๆ” จองซื้อหุ้นอย่างคับคั่ง

สำหรับ “บุคคลธรรมดา” ที่จองซื้อหุ้น AWC มากสุด คือ “นางสาววรมาศ ศรีวัฒนประภา” บุตรสาวคนโตของ “เจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา” แห่งอาณาจักร คิง พาวเวอร์ ได้รับการจัดสรรหุ้น AWC รวม 15.11 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 90.71 ล้านบาท

ถัดมา คือ “นางสายชล สิมะกุลธร” หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บมจ.กุลธรเคอร์บี้(KKC) ได้รับจัดสรรหุ้น AWC รวม 6.15 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 36.93 ล้านบาท

“นายธีรพงศ์ จันศิริ” ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป(TU) ได้รับจัดสรรหุ้นรวม 5.15 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 30.9 ล้านบาท

“นายวิบูลย์ กิจนันทวิวัฒน์” ผู้บริหารระดับสูงของกลุ่ม บริษัท ทุนศรีสยาม จำกัด ได้รับจัดสรรหุ้นรวม 5 ล้านหุ้น คิดมูลค่ารวม 30 ล้านบาท

นอกจากนี้ “เซียนหุ้น” อย่าง “เสี่ยป๋อง วัชระ แก้วสว่าง” ก็ได้รับการจัดสรรหุ้น AWC รวม 4.36 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 26.18 ล้านบาท

"นายยรรยง จูอนุวัฒนกุล" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเทค จำกัด ได้รับจัดสรรหุ้น AWC รวม 4.05 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 24.3 ล้านบาท

“นายพิชัย กัญจนาภรณ์” ประธานกรรมการ บมจ.แม็คกรุ๊ป(MC) ได้รับการจัดสรรหุ้นรวม 3.85 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 23.1 ล้านบาท 

ขณะเดียวกันยังพบว่า “นายปิยะ ภิรมย์ภักดี” ผู้บริหาร “กลุ่มบุญรอด บริวเวอรี่” หรือ “สิงห์” ได้รับการจัดสรรหุ้นรวม 3.3 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 19.8 ล้านบาท

“นางหทัยรัตน์ จุฬางกูร” ได้รับการจัดสรรหุ้นรวม 3 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 18 ล้านบาท 

นอกจากนี้ยังพบ “นายขวัญวัฒน์ สาริกัลยะ” บุตรของ “พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ” อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้รับการจัดสรรหุ้น AWC รวม 3 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 18 ล้านบาท

“นายจรินทร์ พงศ์ไพโรจน์” กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไพโรจน์ (ทั่งซังฮะ) จำกัด เจ้าของน้ำปลาแท้ตรา “ทิพรส” ได้รับการจัดสรรหุ้น 2.8 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 16.8 ล้านบาท

ส่วน “นิติบุคคล” ที่ได้รับการจัดสรรหุ้น AWC มากสุด คือ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์(LH) ได้รับการจัดสรรรวม 50 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 300 ล้านบาท รองลงมา คือ บมจ.บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป(BROOK) ได้รับการจัดสรรรวม 3.6 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 21.6 ล้านบาท

สำหรับ “นักลงทุนสถาบัน” ที่ได้รับการจัดสรรหุ้น AWC มากสุด 5 อันดับแรก คือ Merrill Lynch (Singapore) ได้รับจัดสรร 2.4 พันล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 1.44 หมื่นล้านบาท 

รองลงมา คือ UBS Securities ได้รับจัดสรร 1.64 พันล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 9.82 พันล้านบาท Morgan Stanley&CO.International ได้รับจัดสรร 192 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 1,152 ล้านบาท AIA Company Limited-EQTG-D Fund1ได้รับจัดสรร 107.4 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 644.4 ล้านบาท 

การเคลื่อนไหวของหุ้น AWC หลังเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 ต.ค.2562 พบว่า ราคาหุ้นช่วงที่ยังมี “กรีนชู ออปชั่น” สามารถยืนเหนือราคาจองซื้อได้ โดยหุ้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 6.80 บาท แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีแรงขายออกมา

อย่างไรก็ตามหลังจาก “กรีนชู ออปชั่น” ครบกำหนดเวลาทำหน้าที่ 30 วัน ราคาหุ้น AWC เริ่มมีแรงขายออกมาอย่างหนักหน่วงมากขึ้น จนราคาหุ้นลดลงต่ำกว่าราคาไอพีโอไปเรียบร้อย 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 พ.ย. ราคาหุ้น AWC ปิดตลาดที่ 5.55 บาท ลดลงจากราคาไอพีโอราว 0.45 บาท หรือคิดเป็นการลดลง 7.5%