“ทรัมป์” ขู่เก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่ม 15 ธ.ค.
“ทรัมป์”ขู่เก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มหากยังไม่สามารถบรรลุดีลการค้าเฟสแรกร่วมกันได้
สื่อรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐประกาศจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นต่อสินค้านำเข้าจากจีน หากสหรัฐและจีนยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าร่วมกันได้ ซึ่งคำขู่นี้มีขึ้น ขณะที่ปธน.ทรัมป์ ร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้
ด้านนายแกรี่ โคห์น อดีตหัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า เขาเชื่อว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในวันที่ 15 ธ.ค. หากสหรัฐและจีน ยังคงไม่สามารถทำข้อตกลงการค้า ความเห็นของนายโคห์นสอดคล้องกับนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ซึ่งคาดว่าปธน.ทรัมป์จะเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนในกลางเดือนหน้า หากทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลง
“ผมคิดว่าท่านประธานาธิบดีมองว่านี่เป็นการแสดงพลัง ซึ่งเหมือนกับเกมจ้องตา ถ้าเขากระพริบตาก่อน ก็จะสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาของจีน” นายโคห์นกล่าว
นอกจากนี้ นายโคห์น ยังเชื่อว่าสงครามการค้ากำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และเขาเรียกร้องให้ปธน.ทรัมป์ลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกเพื่อช่วยเหลือภาคเกษตรของสหรัฐ ซึ่งถูกกระทบจากการที่จีนใช้มาตรการภาษีตอบโต้สหรัฐ
ขณะที่สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า เจ้าหน้าที่จีนไม่มีความเชื่อมั่นต่อการเจรจาการค้ากับสหรัฐ เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ปฏิเสธที่จะยกเลิกการปรับเพิ่มภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน
ทั้งนี้ นางสาวยูนิส หยุ่น ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวของซีเอ็นบีซี ทวีตข้อความว่า “แหล่งข่าวรัฐบาลบอกดิฉันว่า ทางการปักกิ่งไม่เชื่อมั่นต่อการเจรจาการค้า โดยจีนมีความไม่พอใจต่อการที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าจะไม่มีการยกเลิกการเก็บภาษีต่อสินค้าจีน ซึ่งจีนมองว่าทั้งสองฝ่ายเคยตกลงกันในเรื่องนี้แล้ว ขณะที่กลยุทธ์ในการเจรจาในขณะนี้คือ ทำการเจรจา แต่ให้รอต่อไป เนื่องจากยังมีหลายปัจจัย เช่น การถอดถอนประธานาธิบดี และการเลือกตั้งในสหรัฐ”
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงเผชิญอุปสรรคจากการที่สหรัฐเรียกร้องให้จีนซื้อสินค้าเกษตรมากขึ้น ขณะที่จีนปฏิเสธเงื่อนไขของสหรัฐที่ต้องการให้จีนยุติการบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี และจีนยังเรียกร้องให้สหรัฐระงับการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ก่อนที่จะมีการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรก